ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แนวโน้มราคาทองยังคงเป็นขาลงเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
แนวโน้มราคาทองยังคงเป็นขาลงเนื่องจากปัจจัยหลักๆจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
เศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีขึ้นและตัวเลขเงินเฟ้อหรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐฯ เนื่องจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นก็ช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ตลาดกำลังรอการเปิดเผยข้อมูล GDP ของสหรัฐในสัปดาห์ต่อมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเปิดตลาดมาราคาทองคำมีการฟอร์มตัวบ่งชี้ว่าจะมีการปรับตัวย่อลงได้เป้าเบื้องต้นจะอยู่ ณ.บริเวณแนวรับแรกก่อนถึงแม้จะมีโอกาสทำจุดต่ำสุดใหม่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ทองคำ'น่าจะฟื้นตัวรุนแรงในปีนี้ ไตรมาสสี่แตะ1,325ดอลลาร์ - ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่าของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดทองคำจะฟื้นตัวในปีนี้ และทดสอบระดับสูงสุดของปีที่ผ่านมา คาดไตรมาสสี่มีราคาเฉลี่ยที่ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากดอลลาร์อ่อนตัวลงและผลตอบแทนลดลง จากนั้นจะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 1,375 ดอลลาร์ในปีหน้า
ซูกิ คูเปอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่าของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ราคาทองคำได้ดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดของปี 2562 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีความเชื่อว่าทองคำกำลังใกล้เข้าไปอยู่ในแดนขายมากเกินไปแล้ว
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คูเปอร์สันนิษฐานเช่นนั้นคือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะหยุดขึ้นดอกเบี้ยไปจนถึงปีหน้า ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่วอลล์สตรีทยังไม่ได้คำนึงถึงอย่างจริงจัง
คูเปอร์กล่าวว่า เฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และในปีหน้า ขณะเดียวกันก็เตรียมเครื่องมือนโยบายสำหรับการชะลอตัวลงครั้งต่อไปซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงปี 2564
นักลงทุนมักมองว่าทองคำเป็นสินทรัพย์หลบภัยเมื่อการเติบโตติด ๆ ขัด ๆ คูเปอร์ตั้งข้อสังเกตว่า ทองคำมักเป็นไปตามแพตเทิร์นในอดีต ซึ่งราคาจะสูงขึ้นเมื่อเฟดหยุดวงจรขึ้นดอกเบี้ยและอาจจะลดดอกเบี้ยลง
คูเปอร์ชี้ว่า แรงซื้อทองคำของธนาคารกลางและดีมานด์ทองคำที่เพิ่มขึ้นจากจีนและอินเดีย ก็น่าจะสนับสนุนให้ราคาทองคำไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคิดว่าราคาทองคำจะอยู่ในช่วงขาขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสสี่ทองคำจะมีราคาเฉลี่ยที่ 1,325 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะคาดว่าในตอนนั้นดอลลาร์จะอ่อนตัวลงและผลตอบแทนต่าง ๆ จะเริ่มลดลงเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังคาดว่าทองคำจะทดสอบระดับ 1,362 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นราคาปิดสูงสำหรับปีที่แล้วในช่วงสามเดือนสุดท้ายของปี ในขณะเดียวกันยังได้คาดการณ์ราคาทองคำจะยิ่งคึกคักมากขึ้นในปี 2563
“จริง ๆ แล้วเราคิดว่าราคาทองคำน่าจะปรับตัวขึ้นอีกในปี 2563 โดยมีราคาเฉลี่ย 1,375 ดอลลาร์ในปีหน้า” คูเปอร์ กล่าว
ราคาทองคำได้ฟื้นตัวขึ้นเมื่อวันจันทร์จากที่อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบสี่เดือนในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาซื้อขายอีกครั้งหลังจากวันหยุดอีสเตอร์ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบที่ได้ปรับตัวขึ้น
ราคาทองคำในตลาดสปอตปรับตัวขึ้น 0.4% อยู่ที่ 1,279.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ได้แตะ 1,270.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561
ทองคำได้ปรับตัวลง 1.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่สี่ติดต่อกัน ส่วนตราสารทองคำในสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น 0.5% อยู่ที่ 1,281.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์
เบนจามิน ลู นักวิเคราะห์ของฟิลิป ฟิวเจอร์ กล่าวว่า ราคาทองคำได้ปรับตัวลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเพียงแค่การซื้อทางเทคนิคโดยมีนักลงทุนจำนวนหนึ่งเข้ามาซื้อและทำให้ราคาสูงขึ้น
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันหลังจากที่มีความตึงเครียดมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน โดยมีการคาดการณ์ว่าสหรัฐฯ จะประกาศห้ามนำเข้าน้ำมันอิหร่านทั่วโลก
อย่างไรก็ดี ทองคำปรับตัวขึ้นได้จำกัดเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังจากที่ข้อมูลชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะโตเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสหนึ่ง