ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน
ทองคำพุ่งขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายเดือน
เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศกำหนดอัตราภาษีรอบใหม่สำหรับจีน ข่าวดังกล่าวก่อให้เกิดอารมณ์ความเสี่ยงส่งผลให้ราคาทองพุ่งขึ้นและเงินดอลลาร์สหรัฐฯกลับไปในทิศทางตรงกันข้าม
ราคาทองคำเพิ่มขึ้นเกือบ 2% ในวันพฤหัสบดีหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนำเข้าของจีนซึ่งถือเป็นการต่ออายุความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศลากเงินดอลลาร์ลงจากระดับสูงสุดในรอบสองปี พร้อมส่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯร่วงลง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ ระบุว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีก 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายน
"เจ้าหน้าที่ของเราเพิ่งกลับมาจากจีน หลังจากที่ได้เจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อทำข้อตกลงการค้าในอนาคต เราคิดว่าเราสามารถทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เมื่อ 3 เดือนก่อน แต่เป็นที่น่าเสียใจที่ว่า จีนได้ตัดสินใจที่จะทำการเจรจาใหม่ ก่อนที่จะมีการลงนาม และเมื่อไม่นานมานี้ จีนตกลงที่จะซื้อสินค้าเกษตรจำนวนมากจากสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นอกจากนี้ ท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้พูดว่า เขาจะยุติการจำหน่ายยา Fentanyl ให้แก่สหรัฐ แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากยังคงเสียชีวิต"
"การเจรจาการค้าจะยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งในระหว่างการเจรจา สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่เหลืออีกมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายนและนี่จะไม่รวมสินค้าวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ซึ่งถูกเรียกเก็บภาษี 25% ก่อนหน้านี้"
"เราตั้งตารอที่จะสานต่อการเจรจาในเชิงบวกกับทางการจีนในการทำข้อตกลงการค้าอย่างเบ็ดเสร็จ และเรารู้สึกว่าอนาคตของประเทศของเราทั้งสองจะมีความสดใสเป็นอย่างมาก" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
ก่อนหน้านี้ราคาทองคำปรับตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม ที่ระดับ $1,400.31 เนื่องจากเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม
ทองคำสามารถทรงตัวอยู่เหนือระดับ$1,400.00 ระดับแนวรับที่สำคัญและนักต่อรองราคาก็เข้าซื้อในขณะที่ราคาลดลง(buy on dip)
แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกในรอบสิบปี แต่ราคาทองคำปรับตัวลดลงมากถึง 1.2% หลังจากที่เจอโรมพาวเวลประธานเฟดส่งสัญญาณว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงนั้นไม่ได้เกิดขึ้น
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.2% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลดลงหลังจากที่ทวีตของทรัมป์เกี่ยวกับอัตราภาษีรอบใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับสูงสุดเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ นับตั้งแต่พฤษภาคม 2017
หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า ต่อเนื่องจากที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 61.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนกันยายน จากเดิมที่คาดว่ามีแนวโน้มเพียง 51%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 100% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน
ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 51.2 ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 จากระดับ 51.7 ในเดือนมิถุนายน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0
ทางด้านเทคนิค: ตอนนี้ต้องดูครับว่าราคาจะสามารถปีนขึ้นยืนเหนือระดับ $1,440.00 ได้หรือไม่โดยจะมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ$1,452.00 และ$1,476.00 ตามลำดับ ในทางกลับกันในขาลงระดับ $1,432.00 จะทำหน้าที่เป็นแนวรับแรกตามด้วย $1,420.00และ$1,414.00 ตามลำดับ