ทองลงแรง 1.นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง...อ่านต่อ
ทองลงแรง 1.นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 779,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ย.2563 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 830,000 ราย จากระดับ 812,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า คำสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ย. โดยการดีดตัวของคำสั่งซื้อภาคโรงงานได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจก่อนหน้านี้เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ราคาสัญญาโลหะมีค่าทั้งเงินและทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ภายหลังจาก Chicago Mercantile Exchange (CME) ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์และสัญญาฟิวเจอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศขึ้นอัตรา maintenance margin โดยปรับเพิ่มขึ้น 17.9% เพื่อสกัดการปั่นราคาของกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาด และทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
2.(-ทอง)ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ ซึ่งลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น *โดยได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว และสหรัฐมีความสามารถที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนได้ตามเป้า
3.SPDRเพิ่มการตุนทอง2.34ตันหลังจากครั้งที่แล้วลดการตุนไป2.63ตัน
SPDRเพิ่มการตุนทอง2.34ตันปิดที่1159.84ตัน ราคาทองหน้าเหมือง(HUI)ลดลง5.32จุดปิดที่279.24 ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน(USDX)เพิ่มขึ้นจาก91.11ปิดที่91.51จุด
นายตลาดทอง
http://www.taradthong.com/node/6931