TARADTHONG.COM

ไม่ขออะไรมาก..ขอเพียงโหวตให้กำลังใจคนทำเว็บ

ตลาดทองขอขอบพระคุณ : http://www.oknation.net

น้ำมันดิบเป็นสินค้าโภคภัณฑ์(Commodity) ที่มีการซื้อกันในตลาดล่วงหน้ามากที่สุดในโลก สินค้าโภคภัณฑ์หมายถึงสินค้าพื้นๆ ซื้อจากที่ไหนก็มีคุณสมบัติคล้ายๆกัน เช่น น้ำมันดิบ เหล็ก ทองแดง ดีบุก ข้าวโพด ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง น้ำตาล ยางพารา ข้าวหอมมะลิของไทยที่ภูมิใจนักหนาว่าเป็นที่หนึ่งในโลก เค้าก็จัดเป็นโภคภัณฑ์เหมือนกัน

 ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ตลาดทุนและตลาดเงินมีการพัฒนาอย่างมาก เงินลงทุนต่างๆจึงเข้าไปอยู่ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร และตลาดเงินเป็นส่วนใหญ่ เพิ่งจะไม่กี่ปีมานี้ที่สินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆราคาสูงขึ้นมาก นักลงทุนและนักเก็งกำไรก็เบนเข็มมาสู่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น

 คำว่าตลาดล่วงหน้าชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า เค้าซื้อขายกันที่ราคาในอนาคต  ที่เราอ่านข่าวพบราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นตามหน้าหนังสือพิมพ์ ถ้าเค้าไม่ระบุว่าเป็น Spot Price ก็จะเป็น Future Price นะครับ ในกรณีของน้ำมันดิบ Light Sweet Crude Oil ที่ตลาด NYMEX ตามที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เป็นราคาของเดือนหน้า คำว่า “ล่วงหน้า” เป็นคำรวมๆที่เราเรียกกัน ในทางการเงินเค้าจะมีตราสารอนุพันธ์  Forward, Future, Option และ Swap  แต่เพื่อกันตัวผมมึนเอง ก็จะขอตัดตอนว่า การซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า เป็นการทำสัญญาชนิด Future ครับ

 Future เป็นสัญญาที่มีขนาดมาตรฐาน เช่น 1 สัญญาเท่ากับน้ำมัน 10,000 บาร์เรล และเป็นสัญญาที่ทำกันในตลาด ในกรณีของน้ำมันดิบ ตลาดที่ใหญ่และมีปริมาณการซื้อขายมากที่สุดคือ New York Mercantile Exchange หรือ NYMEX ที่เรารู้จักกันดี ตลาดนี้ยังมีการซื้อขาย ทอง ทองแดง เงิน และอลูมิเนียมอีกด้วย

 กลไกของตลาด NYMEX ก็คือบรรดา Trader ต่างๆจะมา “แทง” ราคาน้ำมันในเดือนหน้าและเดือนถัดไป การแทงมีสองชนิดคือ Long (ซื้อ) และ Short (ขาย) ถ้ามีคน Log และ Short ในราคาเดียวกันก็จะเกิดเป็นสัญญา (Contract) ขึ้น เมื่อถึงกำหนดเวลาของสัญญาทั้งสองฝ่ายจะเอาน้ำมันดิบมาแลกกับเงินของอีกฝ่ายหนึ่งในราคาตามสัญญา จากภาพบนสุดจะเห็นความเมามันของการแทงใน “ตลาด” แห่งนี้

 หากผู้ซื้อผู้ขายไม่ได้ยื่นความประสงค์ที่จะส่งมอบรับมอบสินค้า ตลาดจะยุติฐานะการถือครองให้ด้วยการชำระส่วนต่างราคาด้วยเงิน (Cash Settlement) หมายถึง นำเงินจากคนที่ “แทงผิด” มาให้คนที่แทงถูก ฟังดูเหมือนการพนันเลยครับ คือต่างฝ่ายต่าง “แทง” ล่วงหน้า แต่จุดประสงค์ของการทำแบบนี้คือการประกันความเสี่ยง

 สมมติว่าเจ๊เกียวไม่อยากให้น้ำมันดีเซลที่มาป้อนขบวนรถของแกสูงกว่า 30 บาท เพราะรัฐบาลไม่ยอมให้ขึ้นค่าโดยสาร เจ๊เกียวอาจจะไป Long (ซื้อ) น้ำมันดิบในตลาด NYMEX ไว้ สมมติว่าที่ราคา 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่แกคงไม่ได้ต้องการนำน้ำมันมากลั่นเอง เมื่อครบกำหนดสัญญาเจ๊เกียวก็จะได้หรือจ่ายส่วนต่าง ถ้าราคาน้ำมันในวันนั้นสูงกว่า 100 ดอลลาร์ แกก็จะได้กำไรเพราะแกตกลงกับคนที่หลงกลมา Short (ขาย) ที่ราคาต่ำกว่า กำไรของเจ๊เกียวในตลาด NYMEX จะไปชดเชยกับการที่ขบวนรถของแกต้องเติมน้ำมันแพงขึ้น

 ในทางกลับกลันถ้าน้ำมันถูกกว่า 100 ดอลลาร์ เจ๊เกียวจะขาดทุนในตลาด NYMEX แต่น้ำมันที่เติมจริงจะถูกลง ถ้าส่วนต่างราคา และจำนวนสัญญามีความความเหมาะสม ต้นทุนพลังงานของบริษัทเดินรถนี้ก็จะคงที่ และบริหารงานง่าย  

บทบาทของตลาดล่วงหน้าในการป้องกันความเสี่ยงเป็นแบบนี้ แต่ในความเป็นจริงมีนักเก็งกำไรเข้ามาทำราคาโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันดิบอย่างต่อเนื่อง ราคามันจึงสูงกว่าความเป็นจริงและผันผวนมาก ผู้เกี่ยวข้องจึงเดือดร้อนกันถ้วนหน้า

 ถ้าคุณชอบติดตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ไม่ต้องรอดูจากข่าวก็ได้ครับ ก็เข้าไปที่ http://www.nymex.com/lsco_fut_cso.aspx เป็น website ของตลาดหากเป็นเวลาที่ตลาดเปิดข้อมูลก็จะ update ทุกๆ 15 นาที จะเห็นได้ว่าในวันที่ 11/4/08 เวลา 14:14 ซึ่งตลาดปิดอยู่นี้ ราคา Light Sweet Crude Oilในเดือนพฤษภาคมเค้าตกลงซื้อขายกันที่ 109.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาเดือนถัดไป ก็จะไล่กันลงมา ในเดือนกันยายนอยู่ที่ 107.36 แปลว่าตลาดคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะลดลงเล็กน้อย แต่การคาดการณ์นี้เปลี่ยนทุกวินาทีครับ ในเดือนตุลาคมราคายังไม่ขึ้น เพราะยังไม่มีผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันได้ หรือยังเป็น Open Interest สาเหตุก็เพราะความเสี่ยงในการคาดการณ์พลาดจะยิ่งสูงขึ้นตามเวลา ถึงแม้ตลาดจะยอมให้ซื้อขายล่วงหน้าได้หลายปี  ก็มักจะไม่มีการซื้อขายกันครับ

ตลาด NYMEX มีเวลาทำการระหว่าง 9:00 ถึง 14:30 ตามเวลานิวยอร์คซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของตลาด แต่ถ้าซื้อขายผ่านระบบออนไลน์จะทำการได้ตั้งแต่ 18:00 ของเมื่อวานนี้จนถึง 17:15 ของวันนี้ หรือวันหนึ่งตลาดปิดเพียง 45 นาที ในแต่ละเดือนจะซื้อขายได้จนถึงสามวัน (ทำการ) ก่อนวันที่ 25 (งงมั้ย) เช่น เดือนนี้จะซื้อขายได้จนถึง 22 เมษายนนะครับ เพราะต้องให้เวลาคนขายไปเตรียมน้ำมันมาส่งมอบ

  ตลาดได้กำหนดคุณสมบัติ ปริมาณ และสถานที่ของสิ่งที่จะส่งมอบกันเมื่อถึงเวลาไว้เรียบร้อย ราคา 109.91 ดอลลาร์คือน้ำมันดิบที่ต้องส่งมอบในเดือนพฤษภาคม 2008  ที่ระบบท่อในรัฐ Oklahoma เป็นราคา FOB (ไม่รวมค่าระหว่างเรือ และประกันภัย)  ต้องมีค่ากำมะถันไม่เกิน 0.42% API Gravity อยู่ระหว่าง 37° - 42°จริงๆจะเป็นน้ำมันดิบจากที่ไหนก็ได้ แต่ในสหรัฐอเมริกา น้ำมันดิบที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและสามารถส่งมอบในสถานที่ดังกล่าวก็จะมี West Texas Intermediate (WTI ที่เราคุ้นเคยกันดีนั่นเอง)  Low Sweet Mix,  New Mexican Sweet, North Texas Sweet, Oklahoma Sweet และ South Texas Sweet เป็นต้น

 แต่ปกติแล้วส่วนใหญ่ไม่มีการส่งมอบจริงๆ ผมจึงเรียกมันว่า น้ำมันกระดาษ ผู้ซื้อผู้ขายส่งมอบและรับมอบเงินที่เกิดจากความผิดถลาดในการ “แทง” แล้วก็แยกย้ายกันไป เดือนหน้าอาจจะมาดวลกันใหม่

นอกจากตลาด NYMEX แล้วในโลกนี้ยังมีตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าอีกหลายแห่งในโลกครับ แต่เราไม่จำเป็นต้องสนใจหรอกครับ เพราะการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันทั้งโลก ไม่มีว่าจะเป็น Future หรือ Spot จะขึ้นๆลงๆในลักษณะเดียวกันทั้งโลก หาก WTI ขึ้นแล้ว ราคาน้ำมันดูไบที่ประเทศในเอเชียใช้ ก็จะขึ้นเหมือนกัน ยกเว้นในกรณีที่บางภูมิภาคเกิด Supply Shortage เป็นช่วงสั้นๆ เช่น เกิดพายุในทะเล

และนี่คือผลของ Demand-Supply + ความกลัวและความโลภของมนุษย์

ทีนี้พอรู้อย่างนี้แล้วต้องทำยังไง ... ทำใจซิครับ ตอนแรกจะบอกว่าให้ช่วยๆกันใช้พลังงานทางเลือก เช่น ไบโอดีเซล  และแกสโซฮอล แต่พอมาใช้กันมาก อาหารก็จะไม่เพียงพอและแพงขึ้น  ช่วงเวลา 3-5 ปีจากนี้ไปคือโอกาสสุดท้ายที่เกษตรกรไทยและผู้เกี่ยวข้องจะมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่ออาหารแพงมาก ชาวโลกจะยอมรับ GMO ได้ง่ายขึ้น และเป็นจุดจบของประเทศเกษตรกรรมบางประเทศหรืออย่างน้อยก็เกษตรกรในประเทศอย่างไทย แต่ก่อนจะถึงจุดจบ จะมีการบุกรุกทำลายป่าเพื่อการเพาะปลูกอย่างมหาศาลอีกรอบ

ติดตามอ่าน รู้จักกับ SPDR Gold Trust กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกEPISODE6 หรือย้อนกลับไป เรื่องราวเกี่ยวกับทอง