รู้จักกับ SPDR Gold Trust กองทุนทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ไม่ขออะไรมาก..ขอเพียงโหวตให้กำลังใจคนทำเว็บ
ตลาดทองขอแนะนำให้รู้จักกับSPDR Gold Trust(www.spdrgoldshares.com)
กองทุนSPDR Gold Trust เป็นกองทุนเปิดดัชนีที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Exchange Traded Fund : ETF)ที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดการให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ บริหารกองทุนโดยWorld Gold Trust Services, LLC ซึ่งถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ที่เป็นองค์กรร่วมระหว่างบริษัทผู้ผลิตทองคำของโลก
กองทุนSPDR Gold Trust มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่งโดยตรงโดยไม่มีการใช้ตราสารอนุพันธ์หรือมีการให้ยืมทองคำแท่งกับผู้ลงทุนอื่น นอกจากนี้กองทุนยังมีสภาพคล่องสูง ค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่ำ มีความโปร่งใส และราคาที่ซื้อขายสะท้อนภาวะตลาดที่แท้จริง
กองทุนเน้นการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำแท่งในตลาดลอนดอน คือ London Gold PM Fix Price ในสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สะดวกสบายมากกว่าเพราะผู้ลงทุนไม่ต้องเก็บรักษาทองคำแท่งด้วยตนเอง เนื่องจากกองทุน SPDR Gold Trust มีผู้เก็บรักษาทองคำแท่งให้ ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงเซี่ยงไฮ้ สหรัฐอเมริกา (HSBC Bank USA, N.A.)
กองทุน SPDR Gold Trust จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ 4 แห่ง ได้แก่ นิวยอร์ก สิงคโปร์ ฮ่องกง และญี่ปุ่น
ประโยชน์ของSPDR Gold Trust
• ช่องทางลงทุนในทองคำที่สะดวกในการสร้างผลตอบแทนการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำในตลาดโลก
• ค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนเองในทองคำโดยตรง
• ทองคำแท่งมีการซื้อขายตลอด24 ชั่วโมง ทำให้มีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง ราคาที่ซื้อขายในตลาดมีความโปร่งใส และสะท้อนภาวะตลาดที่แท้จริง
• SPDR Gold Trust มีสถานที่เก็บทองคำทั้งหมดภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยในห้องเก็บทองคำที่มีความแข็งแรงมั่นคง (Strong room)
ที่มา: Bloomberg ณ มิถุนายน 2552
ประเภทกองทุน กองทุนอีทีเอฟสกุลดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสหรัฐฯ
วัตถุประสงค์ เพื่อหวังผลตอบแทนที่ดีในรูปการเติบโตของสินทรัพย์สุทธิในระยะยาว
นโยบายการลงทุน ลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุนหลังหักค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการจัดการให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของราคาทองคำ
สัญลักษณ์ GLD
ตลาดซื้อขาย New YorkStock Exchange, Tokyo Stock Exchange, Singapore Stock Exchange, Hong Kong Stock Exchange
พอร์ตการลงทุน 100% Gold Bullion ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ 0.40%*
ผู้จัดการกองทุน World Gold Trust Services LLC
ผู้ดูแลผลประโยชน์ The Bank of New York Mellon
ผู้รับฝากทรัพย์สิน HSBC Bank (USA)
ผู้สอบบัญชี Deloitte & Touch LLP
ตัวแทนขาย State Street Global Markets, LLC ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ State Street Global Advisors
การซื้อ-ขาย ซื้อขายได้ทุกวันทำการ
*กองทุนกำหนดค่าธรรมเนียมที่0.40% ต่อปี เป็นเวลา 7 ปี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (12 พ.ย. 47) ซึ่งอาจปรับมากขึ้นกว่า 0.40% ต่อปี หากค่าใช้จ่ายกองทุนปรับสูง
ขึ้นเกินกว่า0.70% ต่อปี เนื่องจากอัตราการลดค่าธรรมเนียมสูงสุดกำหนดไว้ที่ 0.30% ต่อปี
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ต่างๆนาๆ ความคิด นำมาจาก Pantip.com
มีหลายท่านพยายามบอกว่า SPDR Gold Shares (GLD) ยังซื้ออยู่เป็นสัญญาณดี
ท่านเข้าใจผิด ...
SPDR Gold Share เป็น ETF มันซื้อขายทองตามคำสั่งชาวโลก ไม่ได้มีกลยุทธ์คาดการณ์ตลาดแต่อย่างใด ว่าทองขึ้นแหงๆ ผู้จัดการกองทุนเลยสั่งซื้อ
พูดง่ายๆ มันคือ Aggregate ของบรรดา:-)เมาทั้งโลก
เวลาเราซื้อ K-GOLD, TMBGOLD เค้าก็เอาไปฝากกองทุน ETF อย่าง GLD ให้ซื้อทองเก็บไว้ใน Vault ของเค้า หรือที่เราเรียก Feeder Fund นั่นเอง
ยิ่ง GLD ซื้อทองมาก แสดงว่า ฝูงแมงเม่าเริ่มโตได้ที่แล้วตลาดมักจะวาย เป็นอย่างนี้ทุกตลาด ไม่ว่าจะเป็นหุ้น น้ำมัน ทอง
โปรดสังเกตกราฟข้างล่างดูว่า การซื้อของ GLD ไม่ได้บ่งชี้ว่าทองจะขึ้นเลย มันคือตัวตามต่างหาก (พฤติกรรมของแมงเม่า) และบ่อยครั้งซื้อก็ไม่ขึ้น
ทำไมคนทั้งโลกช่วยกันคิดก็ไม่ฉลาด? มันเป็น Competitive Game ครับ ท่านเอาชนะกันและกัน ไม่ใช่ Cooperative Game
ลองดูช่วงก่อนกันยา 2009 แมงเม่ารอไม่ไหวแล้ว ขายทองใน GLD ไปมหาศาล แล้วทองก็เริ่มขึ้นแรง
หรือที่ผมวงไว้สามวง ... วันไหน GLD ซื้อทองเกิน 1,000,000 Ounce ต่อวัน ทองจะลง
ผมรับผิดชอบเงินในกระเป๋าท่านได้เท่านี้ จริงผมลงทุน Aggressive มาก แต่จำเป็นต้องตอบให้กลางๆ
------------------------------------------------------------------------------------------
มาตอกย้ำความเข้าใจครับ
SPDR ไม่ได้มีเงินของตัวเอง แต่เป็นเงินของคนที่เข้ามาซื้อกองทุน แล้วเขาก็ต้องเอาเงินนั้นมาซื้อทองแท่งเก็บไว้อีกที
แต่จะบอกว่า SPDR ไม่ได้แสดงถึงปัจจัยบวกต่อราคาทอง เพราะมีแต่เม่าก็คงไม่ถูกนัก อย่างในประเทศไทยเอง กองทุนทองทั้งหลายที่ออกโดย บลจ. ก็จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อกองทุน SPDR อีกทีหนึ่ง หรือไปอ้างอิงกับกองทุนที่ไปอ้างอิงต่อกับ SPDR อีกทีหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่เป็นแบบนี้ กองทุนทองคำในประเทศอื่นอีกหลายประเทศก็ไม่ได้เอาเงินไปลงทุนในทองแท่งเอง แต่ก็จะเป็นลักษณะผ่านไปทางกองทุน ETF ทองคำใหญ่ๆอีกต่อหนึ่ง
อย่างในบ้านเราเอง การลงทุนของพอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ ถ้าเขาต้องการลงทุน จะไม่ซื้อทองมาเก็บเอง แต่ก็จะซื้อผ่านกองทุนรวมในบ้านเรา ดังนั้น จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าคนที่ลงทุนใน SPDR นั้นมีแต่รายย่อยทั่วโลก
ราคาทองขึ้นลงก็เป็นไปตามกฏ demand-supply ตราบใดที่ความต้องการสูง ก็จะผลักดันราคาขึ้นได้เรื่อยๆ
อยากแนะนำอย่างหนึ่งว่า การลงทุนใน futures ทองคำบ้านเรา อย่ามัวแต่ดูราคาตลาดโลกอย่างเดียวนะครับ ราคาตลาดโลกที่ปรับตัวลงอาจไม่ทำให้ราคา futures ปรับลงตามเสมอไป เพราะราคาทองคำบ้านเรา ยังมีเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ลองเข้าเวบ www.kitco.com คุณจะเห็นเลย ตรงกลางหน้า ยังไม่ต้องเลื่อนหน้าจอไปไหน เขาจะแตกออกมาให้ดูเลยว่า ราคาทองที่เปลี่ยนแปลงในขณะนี้ เกิดจากความต้องการจริงๆเท่าไหร่ แล้วเกิดจากการแข็งค่าหรืออ่อนค่าของเงินดอลล่าร์เท่าไหร่ หากราคาทองที่ปรับลง เกิดจากการแข็งค่าขึ้นของดอล ราคาทองบ้านเราจะปรับลงน้อยมาก หรืออาจไม่ปรับลงเลย (ในกรณีที่เงินบาทเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับเงินสกุลหลักอื่นๆ)
สภาวะการณ์ในปัจจุบัน เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงจากปัจจัยความไม่เรียบร้อยในประเทศ ประกอบกับตัวดอลลาร์เองก็มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจากวิกฤตในยุโรป (ซึ่งอันนี้ก็น่าจะมีผลให้เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยอยู่แล้ว) ทำให้ราคาทองบ้านเรามีโอกาสปรับตัวลงค่อนข้างน้อยครับ