ปาฏิหาริย์รูปสลัก “มาดอนนา” รอดระเบิดนิวเคลียร์ นานาชาติชูเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

[น่ารักสุดๆ]

ปาฏิหาริย์รูปสลัก “มาดอนนา” รอดระเบิดนิวเคลียร์ นานาชาติชูเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

รูปสลัก "พระแม่มารี" ซึ่งทำจากไม้ รอดจากการทำลายของระเบิดนิวเคลียร์ได้อย่างปาฏิหาริย์
 
 
       เอเอฟพี - ระเบิดยูเรเนียม “เด็กอ้วน” (Fat Boy) ซึ่งถูกทิ้งที่เมืองนางาซากิเมื่อ 65 ปีที่แล้ว ได้ทำลายโบสถ์อุราคามิหรือโบสถ์เซนต์แมรี ซึ่งเป็นโบสถ์ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
       
       เปลวเพลิงซึ่งคร่าชีวิตผู้คนในทันทีกว่า 70,000 คน ทำให้กำแพงโบสถ์พังพินาศ กระจกสีแตกละเอียด แท่นบูชาและระฆังก็ถูกไฟหลอมจนละลาย
       
       แต่ส่วนศีรษะของรูปสลัก “พระแม่มารี” ซึ่งทำจากไม้กลับรอดเพลิงมรณะได้อย่างปาฏิหาริย์ และตั้งโดดเด่นอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของโบสถ์แบบโรมาเนสก์ ซึ่งถูกทำลายในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945
       
       หลังผ่านไฟสงคราม สภาพของรูปสลักซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในศาสนาคริสต์ดูน่ากลัวไม่น้อย เพราะดวงตาของ “มาดอนนา” ถูกไฟเผาจนกลายเป็นหลุมดำ แก้มขวามีรอยไหม้เกรียม และปรากฏรอยแยกบนในหน้าที่ดูราวกับน้ำตากำลังไหลลงอาบแก้ม
       
       “ตอนที่เห็นครั้งแรก ฉันคิดว่าพระแม่มารีกำลังร้องไห้” ชิเงมิ ฟุกาโฮริ ชาวบ้านผู้ดูแลโบสถ์วัย 79 ปีกล่าว
       
       “เหมือนกับว่าทรงอุทิศพระองค์เองเพื่อให้เราเห็นถึงความุรนแรงของสงคราม” ฟุกาโฮริกล่าวขณะมองไปที่ใบหน้านั้นอย่างสงบ “นี่คือสัญลักษณ์ของสันติภาพที่ควรเก็บรักษาเอาไว้ตลอดไป”
       
       รูปสลักดังกล่าวถูกนำไปประดิษฐานไว้ในโบสถ์ “เซนต์ แมรี” ที่สร้างขึ้นใหม่บนสถานที่เดิม อยู่ห่างจาก “กราวด์ ซีโร” ของเมืองนางาซากิเพียง 500 เมตร
       
       เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาตินำรูปสลัก “มาดอนนา” ชิ้นนี้ไปจัดแสดงระหว่างการประชุมลดอาวุธนิวเคลียร์ในเมืองนิวยอร์ก เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ