Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
 ปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนแห่งอาถรรพ์
TARADTHONG.COM
มกราคม 11, 2025, 09:18:41 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนแห่งอาถรรพ์  (อ่าน 5403 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: สิงหาคม 07, 2010, 12:26:30 PM »

ปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ดินแดนแห่งอาถรรพ์





ในดวงดาวที่เป็นอณูเล็ก ๆ ของจักรวาลที่มีชื่อว่า โลก มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีคำอธิบาย หลายสิ่งทำให้คนเชื่อ หากหลายสิ่งก็ยังคงกลายเป็นปริศนาที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่สุดก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้

          "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา" ก็เป็นปริศนาหนึ่งของโลกใบนี้ ที่เป็นที่กล่าวขวัญกันถึงความน่าสะพรึงกลัวตั้งแต่อดีต จนปัจจุบันก็ยังคงเป็นปริศนาอันดับต้น ๆ ที่ยังคงกล่าวถึงกันอยู่ และนี่คือเหตุผลที่กระปุกดอทคอมหยิบยกเรื่องราวลี้ลับเรื่องนี้ขึ้นมาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง

          "สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา" (Bermuda Triangle) เป็นบริเวณสมมติในมหาสมุทรแอตแลนติก มีเนื้อที่ประมาณ 1.2 ตารางกิโลเมตร อยู่ระหว่างจุด 3 จุดที่ไม่เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ได้แก่ เปอร์โตริโก ปลายสุดของมลรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา เป็นดินแดนที่เป็นที่รู้จักกันอย่างมาก เพราะเป็นดินแดนอาถรรพ์ที่กลืนกินชีวิตมนุษย์ เรือเดินสมุทร และเครื่องบินมาแล้วมากมาย ซ้ำทุกสิ่งทุกอย่างที่เคลื่อนที่ผ่านบริเวณนี้ยังหายสาปสูญไปโดยไม่เหลือร่องรอยใด ๆ ให้เห็นแม้แต่น้อย จนได้ชื่อว่าเป็นสามเหลี่ยมปีศาจ

          การหายสาปสูญไปของเรือเดินสมุทร และเครื่องบินที่เคลื่อนที่ผ่านสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่อดีต ซึ่งประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายไม่ต่างกัน ถึงแม้ว่าเรือเดินสมุทรและเครื่องบินหลายลำจะมีอุปกรณ์ขอความช่วยเหลืออย่างสมบูรณ์แบบแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อเคลื่อนที่ผ่านบริเวณนี้แล้ว การสื่อสารทุกอย่างก็ถูกตัดและทำให้ผู้คนที่อยู่บนฝั่งไม่สามารถรับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นกับเรือและเครื่องบินเหล่านั้น นอกเสียจากรายงานสุดท้ายที่บอกว่า เข็มทิศเรือหมุนอย่างบ้าคลั่ง และผู้ที่ประสบเหตุก็ไม่สามารถอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้เลย

          แต่อย่างไรก็ดี นักสำรวจและผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้หลายคนต่างสรุปสถานการณ์ก่อนทุกอย่างจะถูกกลืนหายไปว่า ทุกอย่างที่เคลื่อนที่เข้าใกล้สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า จะต้องเผชิญกับพลังงานลึกลับที่พยายามดูดกลืนทุกอย่างให้หายไปอย่างที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ และพลังงานดังกล่าวนี้ยังทำให้ผู้ประสบเหตุเกิดความสับสนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดความงุนงงเกี่ยวกับประสาทสัมผัสทั้ง 5 และสุดท้ายจะสูญเสียความรู้สึกเรื่องการทรงตัวและเวลาอีกด้วย

          แต่มันเกิดอะไรขึ้นที่นั่น พลังงานดังกล่าวเกิดจากอะไร และมันเกิดขึ้นเพราะอะไร คำถามนี้ยังคงเป็นคำถามที่หาคำตอบที่แน่นอนไม่ได้ นอกจากทฤษฎีของเหล่านักวิทยาศาสตร์ นักสมุทรวิทยา และผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ ที่ทำได้เพียงแค่ตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ดังกล่าว ดังนี้

          ทฤษฎีที่ 1 เป็นไปได้ว่าบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า ตั้งอยู่ในจุดสมดุลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า กับพลังของสนามแรงโน้มถ่วง ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างที่เชื่อมต่อกับอีกมิติหนึ่งในห้วงเวลาอวกาศ ดังนั้น เมื่อมีวัตถุเคลื่อนที่เข้าไปในบริเวณดังกล่าว ก็จะหลุดเข้าไปในอีกมิติหนึ่งพอดี และนั่นทำให้วัตถุทุกอย่างหายสาปสูญไปทันที และเมื่อมิติถูกเปลี่ยนแล้ว ก็จะไม่สามารถสื่อสารกับคนอีกมิติหนึ่งได้ และกลับเข้ามาสู่มิติเดิมได้อีก เบอร์มิวด้าจึงเป็นเหมือนประตูที่จะเปิดเข้าสู่อีกมิติหนึ่งของโลก

          ทฤษฎีที่ 2 เป็นไปได้ว่าบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า เป็นบริเวณที่มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงปัญญากว่ามนุษย์มาสร้างเอาไว้ เมื่อสิ่งมีชีวิตเริ่มมาจากทะเลก่อน ก็อาจเป็นไปได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการไปเร็วกว่ามนุษย์อาศัยอยู่ใต้น้ำก็ได้ แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้จะไม่มีการติดต่อสื่อสารใด ๆ กับมนุษย์บนผืนดิน เพราะหลายครั้งที่มีผู้พบเห็นแสงไฟใต้น้ำ และวัตถุแปลกประหลาดใต้น้ำบ้าง หรือแม้แต่มีผู้พบเห็นจานบินโผล่ขึ้นมาจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเหตุผลที่บริเวณดังกล่าวดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไป ก็ยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่เข้าใจและหาคำอธิบายไม่ได้

          ทฤษฎีที่ 3 เป็นไปได้ว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นบริเวณที่สนามแม่เหล็กมีความเข้มข้นสูงที่สุด จึงทำให้วัตถุถูกดูดกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว

          ทฤษฎีที่ 4 เป็นไปได้ว่า บริเวณดังกล่าวเป็นประตูกาลเวลา หรือที่เราเรียกว่า ไทม์แมชชีน นั่นเอง ซึ่งผู้ประสบเหตุแม้ว่าจะยังคงอยู่ที่เดิม แต่ประตูกาลเวลาจะดูดกลืนให้ไปสู่สถานที่ใหม่ โดยไม่สามารถจะหาสถานที่เดิมได้พบ

          ทฤษฎีที่ 5 เป็นไปได้ว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นฐานทัพของชนชาติลึกลับที่ต้องการขโมยเรือหรือเครื่องบิน และสิ่งมีชีวิตลงไปใต้มหาสมุทรเพื่อศึกษาหรือทดลองบางอย่าง ซึ่งข้อสันนิษฐานนี้ก็สอดคล้องกับรายงานที่ว่า มีผู้พบเห็นจานบินลึกลับร่อนไปร่อนมาเหนือสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าอยู่หลายครั้ง

          อย่างไรก็ดี นี่ก็เป็นเพียงแค่ทฤษฎีที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ตั้งขึ้นเพื่อศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น ส่วนความจริงของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าจะเป็นอย่างไร นี่คงเป็นปริศนาที่ยังไร้ซึ่งคำตอบต่อไป หลายครั้ง.. เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ส่งทีมงานไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวแล้ว และทีมงานก็หายสาปสูญไปเช่นกัน จึงทำให้สามเหลี่ยมเบอร์มิวด้ายังคงเป็นปริศนาลี้ลับที่ไม่มีใครอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้ นอกจากผู้ประสบเหตุที่ต่างหายสาปสูญกันไปอย่างไม่มีวันกลับมาได้อีกแล้ว

          ว่าแต่คุณ.. อยากจะค้นหาคำตอบของปริศนานี้ด้วยตนเองหรือเปล่า?
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!