ธุรกิจค้าทองคำล่วงหน้าเดือด
วันพุธที่ 09 มิถุนายน 2010 เวลา 09:41 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ การเงิน Financial - การเงิน Financial
3 ยักษ์ผู้ค้าทอง ลุยหนักธุรกิจค้าทองคำล่วงหน้า ทั้งเพิ่มมาร์เก็ตติ้ง ขยายฐานลูกค้า ฮั่วเซ่งเฮง ตั้งเป้าปีนี้รายได้โตเท่าตัว เอ็มทีเอสเครือแม่ทองสุก คาดมีกำไร 15-20 ล้านบาท พร้อมลุยพอร์ตลงทุน 40 ล้าน ออสสิริส ประกาศรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งของธุรกิจ ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 12-15%
นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด ทายาทรุ่นที่ 3 ของห้างขายทองฮั่วเซ่งเฮง กล่าวว่าในปี 2553 นี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตแบบก้าวกระโดดหรือเติบโต 2 เท่า จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ประมาณ 30 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีกำไรจากเดือนมกราคมที่ถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขายหรือโวลุ่มเทรดโกลด์ฟิวเจอร์ส 800 สัญญาต่อวัน หรือติดอันดับ 1 ใน 3 ของบริษัทที่มีส่วนแบ่งการซื้อขายหรือมาร์เก็ตแชร์สูงสุด เมื่อเทียบกับโบรกเกอร์ที่เป็นกลุ่มร้านทอง ภายใต้การเปิดซื้อขายมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส ที่สัญญาละ 10 บาท ในปีนี้ แต่หากไม่มีมินิโกลด์ฟิวเจอร์ส บริษัทตั้งเป้ามูลค่าการซื้อขาย หรือโวลุ่มเทรด 600-700 สัญญาต่อวัน
สำหรับการขยายฐานลูกค้า บริษัทตั้งเป้าเติบโตเท่าตัวเช่นกัน โดยล่าสุดบริษัทมีฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเป็น 800 รายแล้ว จากสิ้นปี 2552 ที่มีลูกค้า 300 ราย ซึ่งเป็นผลจากการที่บริษัทเน้นขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องทั้งการออกบูธและจัดงานสัมมนา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อยที่ลงทุนในทองคำแท่งอยู่แล้ว คิดเป็นสัดส่วน 80-90% และอีก 10% เป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่บริษัทได้ขยายฐานช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นลูกค้าร้านจิวเวลรี ประเภทโรงงานเครื่องประดับเกี่ยวกับทองคำ และเพชร เป็นต้น
นายธนรัชต์ กล่าวว่า การทำธุรกิจในเชิงรุกดังกล่าว ทำให้บริษัทต้องเพิ่มเจ้าหน้าที่การตลาด หรือมาร์เก็ตติ้ง เป็น 30 ราย จากปัจจุบันที่มีประมาณ 15 ราย และที่สำคัญคือ มีแผนให้ร้านค้าทองรายย่อย เป็นผู้แนะนำลูกค้าให้กับโบรกเกอร์(Introducing Agent : IA) จำนวน 15 ราย จากปีที่ผ่านมาไม่มี เนื่องจากร้านค้าทองทั่วไปยังไม่พร้อมถึงขั้นที่จะเป็นแทนตัวแทนรับส่งคำสั่งซื้อขาย(Selling Agent : SA) เนื่องจากส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความรู้ความเข้าใจด้วย อย่างไรก็ตามบริษัทก็ยังมีแผนเพิ่ม SA สำหรับร้านทองที่พร้อมโดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มอีก 10 ราย จากสิ้นปีมี 6 ราย
นายณัฐพงศ์ หิรัญยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ฟิวเจอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มแม่ทองสุก กล่าวว่า ปีนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนร้านทองให้เป็นผู้แนะนำลูกค้า มากกว่าการเพิ่มตัวแทนขาย โดยจะเพิ่มผู้แนะนำลูกค้าจากร้านค้าทองในปีนี้อีก 50 ราย จากเดิมที่มีอยู่เพียง 3-4 ราย ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการที่บริษัทช่วยขยายฐานลูกค้าให้ตัวแทนขาย จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีตัวแทนขายจำนวน 21 แห่งและครอบคลุมทั่วประเทศแล้วด้วย และครึ่งปีหลังนี้ตั้งเป้าเพิ่มอีก 10-15 ราย ส่วนครึ่งปีแรกบริษัทเน้นให้ความรู้กับตัวแทนขายและนักลงทุนซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมมากกว่า เพื่อช่วยต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับบริษัทด้วย
อย่างไรก็ตามยอมรับว่าการที่ร้านทองและนักลงทุนยังมีความรู้เกี่ยวกับโกลด์ฟิวเจอร์สไม่เพียงพอถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจนี้เช่นกัน โดยทำให้มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นบริษัทจึงเน้นขยายตัวแทนขายแบบระมัดระวัง
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า บริษัทยังมีนโยบายเพิ่มมาร์เก็ตติ้งเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจโกลด์ฟิวเจอร์ส โดยปีนี้ตั้งเป้าเพิ่มเจ้าหน้าที่การตลาดเป็น 25-30 ราย ซึ่งต้นปีมานี้ได้เพิ่มขึ้นเป็น 25 ราย จากสิ้นปี 2552 ที่มีจำนวน 12 รายเท่านั้น จึงทำให้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่มเป็น 2,000 ราย หรือเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัวจากสิ้นปี 2552 ที่มีฐานลูกค้าจำนวน 700-800 ราย
ดังนั้นในปีนี้บริษัทคาดว่าจะเริ่มมีกำไร จากสิ้นปี 2552 ที่ถึงจุดคุ้มทุนแล้วโดยตั้งเป้ากำไร 15-20 ล้านบาท ซึ่งมาจาก 2 ส่วนคือ 1 รายได้จากนายหน้าซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส สัดส่วน 50% และอีก 50% เป็นกำไรจากพอร์ตลงทุนของบริษัทซึ่งได้เริ่มลงทุนในปีนี้วงเงิน 40 ล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ที่ 12-13% หรือติดอันดับ 1 และตั้งเป้าโวลุ่มเทรด 1,000-1,500 สัญญาต่อวัน จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 700-1,000 สัญญาต่อวัน ทั้งนี้บริษัทเตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการปรับตัวและถือว่าเป็นผู้นำในธุรกิจด้วย โดยล่าสุดช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ออกบริการเสริมให้ลูกค้าที่เรียกว่า "ทูเทรด" คือ1. สปีดเทรดซึ่งเป็นการกลุ่มที่เน้นความเร็วและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น และ 2.อีซี่เทรดซึ่งเหมาะกับกลุ่มลูกค้าใหม่
นายบุญเลิศ สิริภัทรวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออสสิริส ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า เพื่อรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งของธุรกิจนายหน้าซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์ส ต่อเนื่องจากปี 2552 จึงตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาด 12-15% หรือมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 500-600 สัญญาต่อวันซึ่งเกินจุดคุ้มทุนที่จะต้องมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 200 สัญญาต่อวัน นอกจากนี้จะเพิ่มจำนวนมาร์เก็ตติ้งเป็น 30 ราย จากปัจจุบันมี 15 ราย และตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเป็น 1,000-1,500 ราย แบ่งเป็นฐานลูกค้าจากบริษัท ออสสิริสฯ ประมาณ 500 ราย หรือคิดเป็น 5% ของฐานลูกค้าจากบริษัทออสสิริสฯ ส่วนที่เหลือมาจากนักลงทุนหน้าใหม่ ขณะที่สิ้นปี 2552 ออสสิริส ฟิวเจอร์ส มีจำนวนลูกค้า 500-600 ราย เท่านั้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,538 10-12 มิถุนายน พ.ศ. 2553
http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_content&view=article&id=32708:2010-06-09-02-44-10&catid=104:-financial-&Itemid=443อ่านข่าวเพื่อประดับความรู้อย่าหลงเชื่อคำพูดใครบางคนเพียงเพราะเค้าบอกว่าดี แต่ออกตัวว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว อย่าตกเป็นเครื่องมือใครเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทน