10 สุดยอดบ่อน้ำพุร้อน ในแดนอาทิตย์อุทัย
หากจะให้นึกถึงสิ่งที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของ "ประเทศญี่ปุ่น" แล้วล่ะก็ มีหลายอย่างมากมายให้พูดถึงกัน และหนึ่งในนั้นจะต้องมี "บ่อน้ำพุร้อน" (Hot Springs) อยู่ด้วยแน่ ๆ เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมจึงจะพาทุกท่าน ไปเที่ยวชมกับ 10 สุดยอดบ่อน้ำพุร้อนของประเทศญี่ปุ่น ที่ทางเว็บไซต์ "บีบีซี" ได้ทำการรวบรวมเอาไว้ ส่วนจะมีที่ไหนบ้างนั้น ตามมาเลย
1. บ่อน้ำพุร้อน ริมแม่น้ำทาคารากาว่า (Takaragawa Onsen)
ชาวญี่ปุ่นที่คลั่งไคล้การแช่น้ำพุร้อน ขนานนามแหล่งน้ำพุร้อนแห่งนี้ว่า เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดของประเทศ โดยคำว่า "ทาคารากาว่า" หมายถึง "แม่น้ำแห่งขุมสมบัติ" และด้วยความหลากหลายของพื้นหิน ที่ทอดขนานฝั่งแม่น้ำยาวกว่า 100 เมตร อีกทั้งความเป็นด่างของน้ำ ที่จะช่วยรักษาความเหนื่อยล้า ความผิดปกติต่าง ๆ ทางระบบประสาทและระบบการย่อยอาหาร จึงทำให้ชื่อของ บ่อน้ำพุร้อนริมแม่น้ำทาคารากาว่า เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
2. บ่อน้ำพุร้อน เมืองอาซาบุ จูบัง (Azabu-Juban Onsen)
อาซาบุ จูบัง เป็นที่แช่น้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยม คุณจะรู้สึกสบายเมื่อได้มาแช่น้ำที่นี่ น้ำที่นี่อุดมไปด้วยแร่ธาตุจากพื้นดินที่ลึกกว่า 500 เมตร แต่ที่น่าแปลกใจคือ อาซาบุ จูบัง ตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ซึ่งเต็มไปด้วยความวุ่นวายของผู้คน แถมยังมีบรรยากาศของโรงอาบน้ำที่สุดคลาสสิค รวมทั้งมี "โรเทนบุโระ" หรือบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งขนาดเล็ก แยกไว้สำหรับชายและหญิงให้บริการด้วย ปิดท้ายกับเทศกาลดนตรีในห้องน้ำชาทาทามิ ที่จัดขึ้นทุกสุดสัปดาห์
3. บ่อน้ำพุร้อนบนเกาะจินาตะ (Jinata Onsen)
น้ำพุร้อนบน เกาะจินาตะ ตั้งอยู่ท่ามกลางหินภูเขามากมาย บริเวณชายฝั่งทะเลชิกิเนะ จิมะ โดย เกาะจินาตะ เป็นเกาะที่ใช้เวลาเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ จากกรุงโตเกียวเพียงไม่กี่ชั่วโมง อีกทั้งคุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพของธรรมชาติ พร้อมสัมผัสกับเสียงของเกลียวคลื่นที่ซัดกระทบกับก้อนหิน นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 บ่อน้ำพุร้อนบนเกาะ ให้ได้ไปแช่ตัวอีกต่างหาก
4. บ่อน้ำพุร้อนที่เมืองคิโนซากิ (Onsen Town Kinosaki)
ที่นี่มีโรงอาบน้ำสาธารณะถึง 7 โรง และมีบ่อน้ำพุร้อนแบบ "เรียวคัง" หรือบ่อน้ำพุร้อนสไตล์ญี่ปุ่นอีกจำนวนมาก คุณสามารถผ่อนคลายและปล่อยตัวให้ไปตามสายน้ำ ขณะเดียวกัน เมื่อเสร็จจากแช่น้ำร้อนเรียวคังนี้แล้ว คุณยังสามารถสวมชุดยูกาตะและใส่รองเท้าเกี๊ยะ เพื่อไปอาบน้ำต่อที่โรงอาบน้ำสาธารณะได้ อีกทั้งในยามราตรีก็มีบรรยากาศที่สุดแสนจะงดงาม ที่สำคัญอย่าลืมแวะชิมปูยักษ์ และเพลิดเพลินไปกับความงดงามของทัศนียภาพสองข้างทางด้วยนะ
5. บ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้ง ซาวาดะ โคเอ็น (Sawada-koen Rotemburo Onsen)
ถ้าคุณชื่นชอบที่จะชมทัศนียภาพของธรรมชาติ ในขณะที่คุณกำลังแช่น้ำร้อนล่ะก็ บ่อน้ำพุร้อน ซาวาดะ โคเอ็น เหมาะกับคุณแล้ว เพราะที่นี่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง ซึ่งจะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับวิวของทะเลแปซิฟิค นอกจากนั้นแล้ว ที่นี่ยังเหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ตกดินอีกด้วย
6. บ่อน้ำพุร้อน แลมป์ โน ยาโดะ (Onsen Lamp no Yado)
บ่อน้ำพุร้อน แลมป์ โน ยาโดะ ตั้งอยู่บนคาบสมุทรโนโตะ ฮันโตะ การเดินทางมาที่นี่ค่อนข้างที่จะลำบากซะหน่อย อาจจะมีการปีนและเดินบ้าง แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจแต่อย่างใด เพราะที่นี่เคยเป็นหลุมหลบภัยสงครามเก่า แม้ว่าการเดินทางจะลำบากไปบ้าง แต่ที่นี่ก็ยังได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก บางรายถึงกับใช้เวลาหลายอาทิตย์ เพื่ออยู่ที่นี่กันเลยทีเดียว
7. บ่อน้ำพุร้อน อูรามิ กา ทากิ (Urami-ga-taki Onsen)
บ่อน้ำพุร้อน อูรามิ กา ทากิ เป็นอีกหนึ่งบ่อน้ำพุร้อนที่มีความสวยงาม มีส่วนที่เป็นกลางแจ้งติดกับน้ำตกในป่ากึ่งโซนร้อน มีรีสอร์ทสไตล์บาหลี สามารถแช่น้ำไปพร้อมแสงแดดยามบ่ายที่ส่องผ่านต้นเฟิร์น ซึ่งเป็นประสบการณ์แสนมหัศจรรย์ที่น่าสัมผัสอย่างยิ่ง
8. บ่อน้ำพุร้อน ชิราฮามะ (Onsen/Beach Combination Shirahama)
เสน่ห์ในการผสมผสานระหว่างทะเลและบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้บ่อน้ำพุร้อน “ชิราฮามะ” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองชายหาด ทางตอนใต้ของเมืองคันไซ สามารถดึงดูดให้ผู้คนเดินทางมาสัมผัส รวมถึงบรรยากาศความงดงามของทัศนียภาพรอบ ๆ เมือง อีกทั้งยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่เปิดให้บริการฟรีบริเวณหาด และบ่อน้ำพุร้อนซากิโนะ ยูที่น่าประทับใจอีกด้วย
9. โรงอาบน้ำร้อนสาธารณะ ทาเกะงะวาระ (Takegawara Onsen)
ที่นี่เป็นโรงอาบน้ำเก่าแก่ เปิดให้บริการมาตั้งแต่สมัยเมจิ ปี 1859 เป็นโรงอาบน้ำในสไตล์ที่เรียบง่ายตามแบบฉบับของญี่ปุ่น มีกลิ่นไม้หอมที่ช่วยในการผ่อนคลาย มีห้องอาบน้ำแยกชายหญิง นอกจากนี้ โรงอาบน้ำร้อนสาธารณะ ทาเกะงะวาระ ยังมีบริการ “อบทรายร้อน” โดยผู้ใช้บริการจะใส่ชุดยูกาตะลงไปนอนในหลุม แล้วกลบด้วยทรายร้อนนาน 10-15 นาที จากนั้นก็ไปแช่ตัวต่อในบ่อน้ำร้อน
10. บ่อน้ำพุร้อน ทากามะ กา ฮาระ (Takama-ga-hara Onsen)
บ่อน้ำพุร้อน ทากามะ กา ฮาระ เป็นโรงอาบน้ำกลางแจ้ง ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์แห่งญี่ปุ่น เป็นสถานที่ที่มีเขตป่าสงวนและเทือกเขาตลอดทั้งสองข้างทาง แต่หากคุณต้องการเดินทางมาที่นี่ ต้องใช้เวลาถึง 3 วัน ด้วยการเดิน! ชาวญี่ปุ่นบางคนถึงกับกล่าวว่า ที่นี่คือโรงอาบน้ำแบบกลางแจ้งที่สูงที่สุดในประเทศ อีกทั้งคุณยังนอนค้างคืนได้ในบริเวณใกล้ ๆ กับกระท่อมเล็ก ๆ บนเขา
และนี่คือ บ่อน้ำพุร้อน 10 แห่ง ที่เรานำมาแนะนำกัน...บอกได้คำเดียวเลยว่าน่าไปสัมผัสด้วยตัวเองอย่างยิ่ง หากมีโอกาสได้ไปรับรองได้เลยว่าจะสบาย ผ่อนคลายเป็นที่สุด