Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
 ใช้ให้เป็น..ไฟตัดหมอก
TARADTHONG.COM
ธันวาคม 24, 2024, 01:44:49 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใช้ให้เป็น..ไฟตัดหมอก  (อ่าน 5271 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: ตุลาคม 21, 2010, 07:07:22 PM »

ใช้ให้เป็น..ไฟตัดหมอก

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่ารถรุ่นใหม่แทบทุกรุ่นต่างได้รับการติดตั้งชุดไฟตัดหมอกกออกมาจากโรงงาน และคนจำนวนมากก็เข้าใจผิดคิดว่านี่เป็นแฟชั่นใหม่ไปสรรหามาแต่ง จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของบรรดาคอซิ่ง และรถแต่งจำนวนมากไปแล้ว
แม้ว่าการติดตั้งไฟตัดหมอกออกมาจากโรงงานก็เพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น แต่มีคนจำนวนมากไม่เข้าใจวิธีใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าประโยชน์ และยังผิดกฏหมายอีกด้วย

ไฟตัดหมอกไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด ทว่ามีมานานมากแล้ว โดยเฉพาะประเทศเมืองหนาว หรือ ประเทศที่มีภูเขาค่อนข้างมาก โดยเจ้าไฟตัดหมอกนี้จะเป็นดวงไฟชุดที่ 2 ที่จะช่วยให้ความสว่างยามที่ทัศนวิสัยการขับขี่ไม่เอื้ออำนวยนัก
ชุดไฟตัดหมอก โดยมากมันก็คือสปอร์ตไลท์ย่อส่วน ที่มาพร้อมกับดวงไฟขนาดไม่ใหญ่โตนักขนาด 55 วัตต์ แต่ก็ทะลุทะลวงเอาเรื่อง ด้วยหลอดไฟแบบเดียวกับสปอร์ตไลท์ ที่จะกระจายแสงในระนาบแนวกว้าง ทำให้สามารถเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ได้อีก แม้จะไม่มากมายแต่ก็สามารถให้มองเห็นทางได้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นที่สังเกตของรถที่สวนมา หรือรถที่ตามมาข้างหลัง สำหรับไฟตัดหมอกหลัง

การใช้ไฟตัดหมอกแม้มันจะขึ้นชื่อว่าไฟตัดหมอก แต่คุณก็สามารถใช้ได้ โดยเฉพาะในหน้าฝนที่ตกพรำๆบ่อยเช่นนี้ ผิวที่เคลือบด้วยน้ำจะทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี การเปิดไฟตัดหมอกก็จะพอช่วยได้ แต่ถ้าจะให้ดีจริงๆ เรามาดูกันว่า สถานการณ์ไหน ที่คุณควรจะต้องเปิดไฟตัดหมอกขับรถกัน
 
1. เมื่อฝนตก นี่เป็นสิ่งที่ควรทำและน่าจะทำอย่างยิ่ง เมื่อพบว่าตัวเองกำลังฝ่าฝนชุดใหญ่ที่ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา คุณสมบัติการกระจายแสงของไฟตัดหมอกจะช่วยให้คุณเป็นที่สังเกตได้ง่าย เช่นเดียวกับการเพิ่มทัศนวิสัยให้ตัวเอง ไปด้วยในตัว
2. เมื่อเจอหมอก อันนี้คงไม่ต้องกล่าวอะไรกันมากเพราะมันเป็นสิ่งที่ ไฟตัดหมอกเกิดมาเพื่อทำหน้าที่ตามชื่อของมัน โดยมากเราอาจจะคิดว่าไฟตัดหมอกได้ใช้เฉพาะหน้าหนาว แต่ความจริงแล้ว เมื่อใดก็ตามที่ขึ้นภูเขาหรือ ที่สูงและพบว่าคุณตกอยู่ในทัศนวิสัยไม่ดี ก็สามารถเปิดใช้ได้เลย

3.หลังฝนหยุดในเวลากลางคืน ข้อนี้เป็นข้อที่เราอยากแนะนำให้ท่านทำอย่างมาก เพราะมันมีประโยชน์ โดยเฉพาะการเห็นเส้นทางที่จะทำได้ชัดเจนจริงๆ ไม่ว่าป้ายบอกทางและเส้นจราจรต่างๆ ช่วยให้คุณขับรถได้ง่ายขึ้น โดยปกติแล้วเมื่อฝนตกจนหยุดแล้ว ถนนจะยังเปียกชื้น แม้เราเปิดไฟใหญ่ไป แต่ก็จะพบว่ามันไม่ค่อยสว่างนัก การหันมาเพิ่มความเข้มของแสงด้วยไฟตัดหมอกจะขจัดปัญหานี้และช่วยลดการสะท้อนของน้ำที่ผิวถนนไปด้วยในตัว
4.ขับผ่านกลุ่มควัน ไม่ว่าจะไฟไหม้หญ้าหรืออะไรก็ตามถ้าคุณพบว่า ไม่สามารถมองเห็นทางข้างหน้าเกินกว่า 50 เมตร ก็สามารถเปิดใช้ไฟตัดหมอกได้ โดยไม่ผิด

อย่างไรก็ดีการใช้ไฟตัดหมอกที่ถูกต้องจริงๆแล้วควรปิดเมื่อพบว่ามีรถสวนมาข้างหน้าในยามค่ำคืน โดยเฉพาะถนน 2 เลนสวนกันควรจะปฏิบัติอย่างยิ่ง และจงจำไว้ว่าไฟตัดหมอกไม่ใช่แฟชั่น ไม่ควรใช้อย่างพร่ำเพรื่อ
ทั้งนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ไฟตัดหมอกอย่างผิดๆ เพราะความไม่เข้าใจบัดนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติตัวเองใหม่ การเปิดไฟตัดหมอกอย่างพร่ำเพรื่อ นอกจากจะแสดงถึงมารยาทที่ไม่ดีในการใช้รถใช้ถนน แล้ว หากเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถจับท่านได้ในข้อหาเปิดไฟตัดหมอกโดยไม่มีสาเหตุ มีโทษสูงสุดปรับ 500 บาท
 

หลายคนคงไม่ทราบว่าไฟตัดหมอกนั้นอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อคุณเปิดพร่ำเพรื่อแบบแฟชั่น มันจะเข้าไปสะท้อนลูกตาคนขับรถสวนทางมา นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ดี หากรถท่านมีปัญหาเรื่องระบบไฟหน้าควรจัดเปลี่ยนใหม่ให้ส่องสว่างไม่ใช่ใช้ไฟตัดหมอกช่วย และท่านควรจะปฏิบัติการใช้ไฟตัดหมอกให้ถูกต้องเพื่อมารยาทที่ดีบนถนน
 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!