Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
 คนไทยใช้ยาปลอมอื้อ ปี52มีเกือบ1.5แสนเม็ด
TARADTHONG.COM
ธันวาคม 24, 2024, 08:50:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คนไทยใช้ยาปลอมอื้อ ปี52มีเกือบ1.5แสนเม็ด  (อ่าน 5055 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 08:17:06 PM »

คนไทยใช้ยาปลอมอื้อ ปี52มีเกือบ1.5แสนเม็ด

รมช.พาณิชบ์ เผย คนไทยใช้ยาปลอม ทั้ง ไวอากร้า ยาพอนสแตน และยาลดความอ้วน โดย ปี 52 จับได้กว่า 1.4 แสนเม็ด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายเฉียด 60 ล้านบาท “พาณิชย์” จับมือ 9 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้ากวาดล้างยาเถื่อน หวั่นคนไทยอันตราย
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการละเมิดเครื่องหมายการค้ายาว่า ปัจจุบัน พบยาปลอม หรือยาละเมิดเครื่องหมายการค้าวางขายอย่างมากในประเทศ โดยเฉพาะยาเสริมสมรรถภาพทางเพศชาย เช่น ไวอากร้า รวมถึงยาพอนสแตนแก้ปวดประจำเดือน ยาลดความอ้วน เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของสิทธิ์ยามูลค่าหลายพันล้านบาทในแต่ละปี และเป็นอันตรายต่อสุขภาพคนไทยอย่างมาก โดยในปี 52 จับยาปลอมได้ถึง 145,708 เม็ด มูลค่าความเสียหาย 58 ล้านบาท แต่ที่จับไม่ได้อีกจำนวนมาก
ทั้งนี้ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับ 9 หน่วยงาน ได้แก่ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานอัยการฝ่ายคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) เพื่อร่วมกันป้องกันการระบาดของยาละเมิดเครื่องหมายการค้า และร่วมกันปราบปราม ทั้งแหล่งผลิต แหล่งจำหน่าย และนำเข้า
"การลงนามเอ็มโอยูครั้งนี้ ไทยจะใช้เป็นข้อมูลเพื่อให้สหรัฐฯใช้พิจารณาทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าตามมาตรา 301 พิเศษ กฎหมายการค้า สหรัฐฯ ที่จะเปิดให้ไทยยื่นข้อมูลทบทวนนอกรอบในช่วงเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นผลดีกับไทย เพราะจะทำให้สหรัฐฯเห็นถึงความตั้งใจในการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และจัดอันดันไทยให้อยู่ในบัญชีดีขึ้น จากปัจจุบันที่ไทยอยู่ในบัญชีประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษด้านทรัพย์สิน ทางปัญญา (พีดับบลิวแอล)" นายอลงกรณ์  กล่าว.
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!