หน้าฝน...ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย

[น่ารักสุดๆ]

หน้าฝน...ขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย

ช่วงนี้คงต้องเรียกว่าเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนกันจริงๆ เสียแล้ว หลังจากร้อนกันมาทั้งปี หลายๆวันที่ผ่านมานี้ก็เลยเฉอะแฉะกันพอสมควรเลย แม้เราจะปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าฝนเป้นอะไรที่เบื่อผสมความโรเมนติค แต่หากจะให้ดีการขับรถในหน้าฝนนี้ ทุกคนก็ควรใช้ความระมัดระวัง
การขับรถในหน้าฝนไม่ใช่เรื่องยากและหลายคนคงเจอกันมาแล้วทั้งนั้น แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการขับรถหน้าฝนนั้นยังเป็นเรื่องที่อันตรายอยู่พอตัวเลยทีเดียว โดยเฉพาะความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่มีมากจากทัศนวิสัยที่แย่ เช่นเดียวกับถนนที่ลื่นอาจส่งคุณลงไปทานหญ้าข้างทางได้ทุกเมื่อ
วิธีขับรถในหน้าฝนให้ปลอดภัยนั้นความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องยาก หากแต่ต้องอาศัยไหวพริบและสติในการขับรถยนต์มากกว่าปกติ ธรรมดา ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หัดขับหรือมือเก่าจอมเก๋า วันนี้เรามีเทคนิคขับรถหน้าฝนมาขับกัน

อันดับแรกที่คุณต้องทำเมื่อเข้าสู่การขับรถยนต์ท่ามกลางฝนตก คือประเมินสภาวะฝนและเปิดเครื่องช่วยในการขับขี่ โดยคุณจำเป็นที่จะต้องเปิดใบปัดน้ำฝนด้านหน้าและทางด้านหลังถ้ารถคุณมี พร้อมกันนี้ให้ประเมินด้วยว่าสภาวะฝนที่เจอมีความหนักเบาน้อยเพียงใดหากหนักมากก็ควรเปิดไฟหรี่และไฟหน้าตามลำดับ เพื่อสร้างทัศนวิสัยให้ตัวคุณและเพื่อนร่วมทาง
เมื่อขับผ่านฝนมาได้สักระยะคุณจะเริ่มชินกับสภาวะการขับขี่ ให้สำรวจสภาวะการมองเห็นของคุณ หากพบว่ากระจกหลังเริ่มเป็นฝ้าให้ทำการกดปุ่มไล่ฝ้าตรงบริเวณแอร์รถยนต์ พร้อมกันนี้ตรวจสอบสภาวะฝนว่าแรงขึ้นหรือน้อยลงอย่างไรบ้าง แล้วจัดการปรับอุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะสม พร้อมกันนี้ปรับเปลี่ยนระยะห่างระหว่างคุณกับคันหน้าด้วย และที่สำคัญไม่ควรเปิดไฟฉุกเฉินไม่ว่ากรณีใดๆ

สิ่งหนึ่งที่ควรจำเป็นอย่างยิ่งในการขับรถท่ามกลางสายฝน คือไม่ควรเบรกหรือหักหลบกระทัน เพราะอาจนำคุณไปสู่ข้างทางได้อย่างไม่ทันรู้ตัว การเบรกระทันหันในที่มีน้ำเปียกอาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย โดยเฉพาะบรรดารถกระบะอาจหมุนได้ง่าย โดยที่คุณไม่รู้ตัว ซึ่งการเบรกกระทันหันนี้ให้ผลเช่นเดียวกับการหักหลบกระทันหัน ดังนั้นทางที่ดีให้เว้นระยะห่างจากคันหน้าพอประมาณ และถ้าจำเป็นต้องเบี่ยง ควรเปิดไฟสัญญาณเลี้ยว มองจังหวะที่เหมาะสม แล้วออกไป
น้ำท่วมและน้ำขังเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ยากจะเลี่ยงกับความเป็นอุกาบาตหรือหลังเต่าของถนนในบ้านเรา ซึ่ง ในกรณีน้ำขังหากพบว่ามีอยู่ตรงหน้าให้ชะลอความเร็วลงและเข้าสู่พื้นที่น้ำขังช้าๆ คอยสังเกตระดับความลึกของน้ำด้วยว่า มีความลึกมากน้อยเพียงใด

ในกรณีน้ำท่วมนั้น สำหรับใครที่ใช้รถเก๋งก่อนผ่านทางควรเล็งดูระดับน้ำให้ดี หากพบว่าน้ำท่วมมีระดับเกินครึ่งล้อรถกระบะก็ควรจะหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว แต่หากมีระดับต่ำกว่าก็สามารถผ่านได้ โดยใช้ความระมัดระวงั โดยเฉพาะเรื่องเครื่องยนต์ดับกลางทาง ซึ่งมักเกิดจากคลื่นน้ำของรถยนต์คันอื่นๆ ทางที่ดีควรต้องค่อยๆ ไหลไปตามทางและระวังการปะทะคลื่นน้ำอย่างแรง
การขับรถหน้าฝนนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้นหากคุณไม่สามารถขับเร็วกว่าเพื่อนร่วมทางก็ จงอย่ากีดขวางการจราจร เพราะคุณกำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อนและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้โดยไม่รู้ตัว