6 เหตุผลง่ายๆ ช่วยคุณเลือกรถที่คุ้มค่า

[น่ารักสุดๆ]

6 เหตุผลง่ายๆ ช่วยคุณเลือกรถที่คุ้มค่า
วันนี้เราไปเห็นกระทู้ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ที่ในกระทู้ดังกล่าวได้พูดถึงการตัดสินใจเลือกรถคันใหม่มาใช้งานของท่าเจ้าของกระทู้ ซึ่งยังตัดสินใจไม่ได้ระหว่างตามใจตัวเองหรือตามใจศรีภรรยา ที่เรียกว่าต่างกันสุดคั่วเลยก็เป็นได้ ...แต่เรื่องแบบนี้จะไม่เป็นปัญหาต่อไป หากคุณรู้ว่าต้องการอะไร และวันนี้ทีมงานเรามีเคล็ดลับดีๆ ในการตัดสินใจเลือกซื้อรถมาฝากกัน
 

การเลือกซื้อรถนั้นฟังดูอาจจะเป็นเรื่องง่าย เพราะทุกวันนี้การซื้อรถใหม่สักคันนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ นานาแถมมาให้อีกมากมาย ที่สำคัญเราคงต้องยอมรับกันมากขึ้นด้วยว่า ทุกวันนี้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แม้ว่าระบบขนส่งในประเทศจะมีมากแต่ก็ยังไปไม่ถึงในบางจุดย่านชานเมือง ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่งเลยทีเดียว
แนวทางการเลือกซื้อรถยนต์นั้นหลายคนที่เริ่มมองหาตัวเลือกในตลาดที่ต่างก้มีผู้ผลิตมากหน้าหลายตา จัดรถรุ่นใหม่ๆมาอวดโฉมกันเกือบถึงหน้าบ้านของท่าน โดยมากกลุ่มผู้ที่เริ่มมาเป็นลูกค้ามักจะมองรถคันแรกจากความชอบส่วนตัวก่อน แล้วค่อยมาเป็นตัวเลขทางด้านราคา จากนั้นตัวแปรสำคัญอีกอย่างที่เข้ามาเพิ่มเติมโดยมากมักจะเป็นราคาขายต่อ เมื่อยามต้องการเปลี่ยนรถ
 

อันที่จริงแล้วการเลือกซื้อรถสักคันแต่ละคนก้มักจะมีเหตุผลต่างกันไปต่างๆ นานา ในการจัดหารถคู่ใจมาใช้สักคัน แต่หากคุณอยากจะรู้ว่าเลือกรถอย่างไรให้คุ้มค่าเพียงทำตามคำแนะนำของเรา รับรองไม่ว่าจะซื้อรถรุ่นใดประเภทไหนได้ความคุ้มค่าแน่นอน
 
จุดประสงค์การใช้งาน สิ่งแรกที่คุณควรคำนึงถึงเมื่อจะซื้อรถยนต์คันหนึ่งมาจอดไว้ในโรงรถที่บ้าน คงไม่พ้นเรื่อง จุดประสงค์ที่ต้องการมีรถ เรื่องนี้เป้นสิ่งที่หลายคนมักจะมองข้าม เพียงเพราะคิดเหมาเอาว่ามันช่วยให้สะดวกสบาย หรือไม่ก็เอาความชอบส่วนตัวมาเป็นที่ตั้ง ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเราควรเริ่มมองหารถยนต์คันหนึ่งเมื่อมีความจำเป็นใช้งาน และมองลึกลงไปกว่านั้นอีกว่าเราจะได้ใช้งานมันคุ้มค่าหรือเปล่า
ไลฟ์สไตล์ เมื่อพอจะเริ่มรู้แล้วว่ารถที่เรากำลังจะซื้อมามีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตเรามากน้อยเพียงใด เราก็จำเป็นที่จะหันกลับมามองว่า ไลฟ์สไตล์ของชีวิตเราเป็นอย่างไรด้วย เนื่องจากเราต้องการรถยนต์มาเพื่อตอบสนองความต้องการของเรา หากเราใช้มันได้เกือบทุกกิจกรรมที่เข้ามามีบทบาทในชีวิต ก็ยิ่งเข้าใกล้คำว่า “คุ้มค่า” มากขึ้น


3. ระยะทางในการเดินทางและสภาพจราจร ปัญหาหนึ่งของคนใช้รถในปัจจุบันคงไม่พ้นสภาวะการเดินทางที่นับวันทุกคนต้องมาผจญภัยบนถนน พร้อมซับน้ำตากับราคาน้ำมันที่มีแต่จะแพงขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเด็กๆ จนไม่ต้องฝันถึงติดแก๊ส หากดูสภาวะรอบบ้านๆและที่หมายปลายว่า ลักษณะสภาพถนนที่เราต้องฝ่าฟันไปนั้น มันมีสภาพการจราจรแบบใดบ้าง เป็นแบบนอกเมืองหรือในเมือง และที่สำคัญ ในวันหนึ่งๆ เราต้องใช้รถเป็นรถยะทางประมาณกี่กิโลเมตร ซึ่งจะทำให้เรารู้ว่าควรใช้สมรรถนะรถประมาณไหน โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องยนต์เพราะรถที่มีเครื่องยนต์ขนาดเล็กก็ไม่ได้หมายความว่า จะตอบสนองน้ำมันได้ดีเสมอไป แต่เราควรต้องใช้ให้เข้ากับเส้นทางที่เราต้องใช้เป้นประจำมากกว่า

4. องค์รวมของรถ เมื่อพอได้ตัวเลือกในใจจาก 3 ข้อแรกแล้ว ทีนี้ได้เวลาที่เราจะไปดูรถตัวจริงๆกัน การไปยังโชว์รูมรถนั้น แน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องพบกับเซลล์ประจำโชว์รูมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จงพยายามอย่าฟังการเชื้อเชิญให้วางเงินจองรถของเซลล์ ให้คุณลองรถตัวอย่างที่จอดในโชว์รูมให้หนำใจ โดยเริ่มจากทดลองนั่ง ตรวจสอบวัสดุ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆเป็นหลัก ส่วนเครื่องยนต์ให้รู้ไว้เพื่อเทียบน้ำหนักกับน้ำหนักตัวรถ แต่ที่สำคัญอย่าไปดูรถคนเดียวเป็นอันขาด..ให้ชวนเพื่อหรือคนในครอบครัวไปด้วย เพื่อช่วยกันสำรวจให้ทั่ว ทั้งภายใน...ภายนอก แล้วถ้าเกิดฟลุกมีโอกาสก็ควรทดลองขับเลย เพื่อจะได้รู้ถึงสภาพการใช้งานจริงที่จะเกิดขึ้นกับรถคันนั้น



5.ราคาค่าตัว และการดูแลรักษา นับว่าเป็นเรื่องที่เรามองข้ามเลยไม่ได้ ทีเดียวสำหรับราคาค่าตัวของรถรุ่นนั้นๆ ว่าเมื่อประมวลจากองค์รวมและราคาค่าตัวเราจะต้องจ่ายแล้วนั้นมันคุ้มค่า ในการจับจองเป็นเจ้าของหรือไม่ โดยให้พิจารณาจาก เทคโนโลยี,ความปลอดภัย และ สมรรถนะของรถ ซึ่งนอกจากค่าตัวตอนเริ่มซื้อแล้วให้มองถึงเรื่องเม็ดเงินที่จะต้องใช้ในการดูแลรักษารถคันดังกล่าวด้วย ไม่ว่าจะการบำรุงรักษาทั่วไปที่ต้องเจอกันประจำไปจนถึงการต่อภาษีประจำปี และที่สำคัญต้องมองถึงค่างวดเงินผ่อนด้วย ให้คำนวนดูว่า มันจะทำให้คุณกระเป๋าฉีกในอนาคตหรือไม่ ที่สำคัญอย่าซื้อรถเกินตัวเพียงเพราะว่าอยากได้ ถ้าเป็นรถคันที่ 2 แล้ว อันนี้ไม่ว่ากัน

6.สภาพการณ์ในอนาคต บางครั้งเราควรต้องเปิดรับฟังข่าวสารบ้าง เพื่อเสริมอำนาจในการตัดสินใจ โดยเฉพาะในกลุ่มโลกออนไลน์ ที่ปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงได้ง่าย ว่ามีข่าวการเปลี่ยนโฉมหรือจะมีรถรุ่นใหม่มาแทนที่ในอีกไม่กี่เดือนหรือไม่ ถ้าพบว่าจะมีการเปลี่ยนในระยะไม่เกิน 3 เดือน ควรจะอดใจไว้ก่อน เพราะการซื้อรถที่อีกไม่นานจะตกรุ่น คงไม่ใช่เรื่องที่คุณอยากจะทำนัก

ก่อนซื้อรถยนต์สักคัน เราควรจะสำรวจสิ่งรอบตัวดีๆ ว่ารถยนต์ที่เรากำลังจะเลือกซื้อนั้นสามารถนำมาใช้งานตรงตามที่เราต้องการ หรือไม่ หากทุกอย่างโอเคก็ได้เวลาฉลองถอยรถใหม่แล้วล่ะ