เที่ยวลาว สัมผัสมนต์เสน่ห์ประเทศเพื่อนบ้าน
สันติภาพ เอกราช ประชาธิปไตย เอกภาพ วัฒนาถาวร...นี่เป็นคำขวัญของ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (Laos) หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า ประเทศลาว หรือ สปป. ลาว บ้านพี่เมืองน้องของประเทศไทย ซึ่งมีวิถีชีวิต ภาษา วัฒนธรรม และประเพณีคล้ายคลึงกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ทำให้แต่ละปีชาวไทยเดินทางไป "เที่ยวลาว" เป็นจำนวนมาก อาจเพราะเสมือนอยู่บ้านตัวเอง ค่าครองชีพที่ไม่แพงมากนัก รวมถึง ประเทศลาว มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกดอทคอมเลยขอพาเพื่อน ๆ ไป "เที่ยวลาว" เพื่อทำความรู้จักกับ "ประเทศลาว" ให้มากยิ่งขึ้น แล้วรับรองว่าคุณจะตกหลุมรัก ประเทศเล็ก ๆ แต่ร่ำรวยความสุขอย่างแน่นอน
ประเทศลาว เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่บนใจกลางของคาบสมุทรอินโดจีน มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 236,800 ตารางกิโลเมตร และไม่มีทางออกสู่ทะเล เนื่องด้วยตลอดแนวชายแดนของประเทศลาว ล้อมรอบด้วยชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน มี นครหลวงเวียงจันทน์ เป็นเมืองหลวงของประเทศ
ภูมิประเทศของลาวแบ่งเป็น 3 เขต คือ เขตภูเขาสูง เป็นพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ย 1,500 เมตรขึ้นไป พื้นที่นี้อยู่ในเขตภาคเหนือของประเทศ, เขตที่ราบสูง ปรากฏตั้งแต่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบสูงเมืองพวน และเขตที่ราบลุ่ม เป็นเขตที่ราบตามแนวฝั่งแม่น้ำโขง และแม่น้ำต่าง ๆ
สำหรับการปกครองนั้น เป็นแบบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ หรือที่ทางการลาวใช้คำว่า ระบอบประชาธิปไตยประชาชน โดยมี "พรรคประชาชนปฏิวัติลาว" เป็นองค์กรชี้นำประเทศ ซึ่งพรรคนี้เริ่มมีอำนาจสูงสุด ตั้งแต่ลาวเริ่มปกครองในระบอบสังคมนิยม เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2518 มี ประธานประเทศ (ประธานาธิบดี) ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และมีประชากรรวม 6,068,117 คน ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ หลากหลายเชื้อชาติ
ประเทศลาวใช้ "ภาษาลาว" เป็นภาษาทางการ ส่วนในกลุ่มชาวลาวเทิงและชาวลาวสูง ยังคงมีการใช้ภาษาประจำเผ่าของตนควบคู่กับภาษาลาว ส่วนภาษาต่างประเทศอื่นที่มีการใช้ได้แก่ ภาษาฝรั่งเศส ซึ่งมีการใช้มาตั้งแต่สมัยอาณานิคม และอีกภาษาหนึ่งที่สำคัญคือ ภาษาอังกฤษ ในส่วนของศาสนา ชาวลาวส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติ คิดเป็น ร้อยละ 60 ของชาวลาวทั้งหมด ควบคู่ไปกับลัทธินับถือผีบรรพบุรุษของชนชาติส่วนน้อยในแถบภูเขาสูง ส่วนชาวลาวที่นับถือศาสนาคริสต์และศาสนาอิสลาม มีจำนวนที่ค่อนข้างน้อยมาก
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศลาวที่สำคัญ ๆ โดยแบ่งเป็นแขวง ได้แก่...
นครหลวงเวียงจันทน์
เป็นเขตที่ตั้งของ "กรุงเวียงจันทน์" เมืองหลวงของประเทศลาว ลักษณะการปกครองคล้ายกับกรุงเทพมหานคร อยู่ทางตอนกลางของประเทศลาว มีเมืองเอกคือจันทะบูลี มีเขตติดต่อเป็นชายแดนกับประเทศไทย ระหว่างเวียงจันทน์กับหนองคายของประเทศไทย ทางสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 แขวงนครหลวงเวียงจันทน์เป็นแขวงที่เจริญที่สุดใน 18 แขวงของประเทศลาว ซึ่งเขตปกครองนี้ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2532 โดยแยกออกมาจากแขวงเวียงจันทน์ เดิมชื่อ "กำแพงนครเวียงจันทน์" ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น "นครหลวงเวียงจันทน์"
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วัดพระธาตุหลวง ซึ่งถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของประเทศลาว เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ และยังแทนความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของประเทศลาว อีกด้วย พระธาตุนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และถัดจากประตูทางเข้าใหญ่ประมาณ 100 เมตรจะเห็นพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช พระหัตถ์ทรงถือพระแสงดาบวางพาดไว้บนพระเพลา
ประตูชัย เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียสละชีวิต ในสงครามก่อนหน้าการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์ สร้างเสร็จในปี พ.ศ.2512 ลักษณะสถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลของประตูชัยในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เจ้าอาณานิคมในสมัยนั้น สามารถขึ้นไปชมทิวทัศน์ของนครเวียงจันทน์ บนยอดของประตูชัยได้อีกด้วย
วัดศรีษะเกษ สร้างขึ้นใน ค.ศ.1818 ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และเป็นวัดเดียวในลาว ที่ไม่ถูกสยามหรือประเทศไทยเผา ตรงกลางของวัดศรีษะเกษเป็นโบสถ์ล้อมรอบด้วยระเบียงคต สร้างแบบศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นหรือแบบล้านช้าง มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ 6840 องค์
หอพระแก้ว คือสถานที่เคยประดิษฐาน พระแก้วมรกต หรือ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ตั้งอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว ปัจจุบันเหลือเพียงพระแท่นที่ประดิษฐาน เพราะพระแก้วมรกตองค์ปัจจุบัน ได้รับการอัญเชิญลงมาประทับที่กรุงเทพมหานครใ นสมัยของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โดยสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกเป็นผู้อัญเชิญ
แขวงอัดตะปือ
ตั้งอยู่ทางตอนตะวันออกเฉียงใต้ของลาว ซึ่งความแร้นแค้นและดูไม่เจริญเหมือนแขวงอื่น ๆ ทำให้แขวงนี้กลับกลายเป็นจุดเด่นสำหรับนักท่องเที่ยว ที่แสวงหาดินแดนใหม่ ๆ แขวงนี้อยู่ไกลสุดอยู่ชายแดนกัมพูชา ถัดไปจากแขวงเซกอง เมืองหลวงชื่อ “สามัคคีชัย” แม้สภาพเศรษฐกิจของผู้คนอาจดูไม่ดีนัก แต่ธรรมชาติก็เยี่ยมจนได้รับฉายาว่าเป็นเมืองสวน ที่อยู่ในวงล้อมของขุนเขามีแม่น้ำเซโดนไหลผ่าน เงียบสงบ และน่าเที่ยวมากแขวงหนึ่ง แม้ที่พักจะไม่เยอะเท่าแขวงอื่น ๆ แต่ก็พอเพียงกับนักท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วัดหลวงลัตตะมาลาม, วัดฟางแตง, วัดหลวงเมืองเก่าวะราราม, ตลาดใหญ่, สะพานเซกอง, ถ้ำผา, อนุสาวรีย์วีรชนทหารผ่านศึกลาว-เวียดนาม และ อนุสาวรีย์ประธานไกสอน พมวิหาน ซึ่งเป็นผู้กอบกู้เอกราชให้แก่ชาวลาว
แขวงบอลิคำไซ
ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ มีชื่อเสียงมากเกี่ยวกับหินปูน ทั้งทัศนียภาพและเหมืองซึ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งยังเป็นประตูสู่ลาวใต้ และยังเป็นแขวงที่มีความสำคัญด้านการท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศลาว เพราะเป็นเมืองท่าด่านติดชายแดนสองประเทศ โดยทางด้านทิศตะวันตกริมฝั่งแม่น้ำโขง บริเวณเมืองปากซัน จะตรงข้ามกับจังหวัดบึงกาฬของไทย ส่วนทางด้านทิศตะวันออกบริเวณด่านแก้วเหนือ จะติดด่านกอเตรียวของประเทศเวียดนาม การท่องเที่ยวแขวงบริคำไชยสามารถนั่งรถจากแขวงเวียงจันทน์ ลัดเลาะลงมาตามถนนทางหลวงหมายเลข 13 ใต้ หรือจะใช้บริการเรือข้ามฝากไปเที่ยวก็ได้
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วัดพระบาทโพนสัน, ปากกะดิ่ง, น้ำตกวังพอง, หลักซาว และบ้านนาแป ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของ แขวงบริคำไชย ห่างจากเมืองปากซันประมาณ 100 กิโลเมตร หลักซาว ตั้งอยู่ในเขตภูเขาหินปูน สถานที่เข้าชมได้คือ ถ้ำเมืองคอน ตั้งอยู่ทางเหนือเมืองขึ้นไปตามทางหลวงหมายเลข 8 ประมาณ 17 กิโลเมตร และมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงคือ บ่อน้ำอุ่นในลำน้ำพาว อยู่เลยจากถ้ำไปประมาณ 1 โลเมตร จากหลักซาวยังมีถนนผ่านไปบ้านนาแป ชายแดนด่านแก้วเหนือตรงข้ามด่านก่อเตรียวของเวียดนาม
แขวงจำปาสัก
ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ ติดชายแดนประเทศไทยและกัมพูชา มี เมืองปากเซ เป็นเมืองหลักของแขวง และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของลาว (รองจากเวียงจันทน์และเมืองไกสอน พมวิหาน) ถือเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองและเศรษฐกิจ รวมไปถึงการท่องเที่ยวของลาวตอนใต้ เป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีแม่น้ำโขงไหลผ่านกลาง และเกิดเกาะแก่งเป็นจำนวนมากจนได้ชื่อว่า "ดินแดนสี่พันดอน"
แขวงจำปาศักดิ์ เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโบราณ เนื่องจากเป็นพื้นที่ภายใต้อิทธิพลของอาณาจักรขอมโบราณ และเป็นที่ตั้งของอาณาจักรจำปาสัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านช้างในเวลาต่อมา แขวงจำปาศักดิ์จึงมีมรดกทางวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่มากมาย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศลาว โดยเฉพาะมรดกโลกปราสาทหินวัดพู นอกจากนี้ แขวงจำปาศักดิ์ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก เช่น น้ำตกคอนพะเพ็ง น้ำตกหลี่ผี น้ำตกผาส้วม เป็นต้น
แขวงหลวงน้ำทา
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือสุดของประเทศ แขวงนี้แต่เดิมเป็นส่วนหนึ่งของ แขวงหัวของ เป็นพื้นที่ของแขวงหลวงน้ำทาและบ่อแก้วในปัจจุบันรวมกัน ต่อมาจึงได้ยุบแขวงหัวของลงและแยกออกเป็น 2 แขวง ที่ตั้งแขวงหัวของเดิมได้ถูกยุบลง และตั้งเป็นแขวงใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น แขวงบ่อแก้ว และแยกเมืองทางเหนือของแขวงหัวของเดิมไปตั้งแขวงใหม่ คือแขวงหลวงน้ำทาในปัจจุบัน
แขวงหลวงน้ำทา มีภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นที่อยู่อาศัยของ ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ได้แก่ ม้ง ขมุ ไทเหนือ ไทดำ ไทแดง ไทขาว ไทยวน ไทลื้อ ละวิด ละเมด สีดา อีก้อ มูเซอ กะลอม ไทยใหญ่ อีกทั้งยังเป็นจุดหมายปลายทางของผู้ที่ชอบแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ เพราะ หลวงน้ำทา มีทั้งเปิดให้ชมวิถีชีวิตของชนเผ่าต่าง ๆ รวมถึงร่องรอยจากสงครามกองทัพขบวนการประเทศลาวกับกองโจรม้ง
อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้ามาแวะพักที่ หลวงน้ำทา เพื่อเดินทางต่อไปยังบ่อแก้ว หรือไม่ก็ไปจีน หรือไปยังเมืองสิงห์ ภายตัวเมืองหลวงน้ำทาจึงมีที่พักแบบเกสต์เฮาท์ค่อนข้างเยอะ ปัจจุบันหลวงน้ำทามีถนนสายกว้าง ถ้าเดินมาทางเชิงสะพานด้านตะวันออกของถนนสายหลักในยามเช้า จะเห็นผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของที่ตลาด ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของสถานีรถขนส่ง ถัดจากเมืองประมาณ 2 กิโลเมตรไปตามเส้นทางเมืองสิงห์ จะพบศูนย์หัตถกรรมหลวงน้ำทา ซึ่งสหภาพยุโรปเป็นผู้ออกเงินสร้าง เพื่อให้มีที่จำหน่ายสินค้าหัตถกรรมของชาวบ้าน
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วัดหลวงบ้านเชียงใจ, วัดพระธาตุเชียงตึง, วัดพระธาตุเมืองสิงห์, เรือนพญาเซกอง, ตลาดใหญ่, พระธาตุหลวงน้ำทา และตลาดมืด
แขวงหลวงพระบาง
ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ อยู่ริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำคาน ซึ่งไหลมาบรรจบกัน และมีเมืองเอกซึ่งเป็นเมืองที่องค์การยูเนสโก ได้ยกย่องให้เป็นมรดกโลก เพราะเป็นเป็นเมืองเก่าแก่ของอาณาจักรล้านช้าง ตั้งแต่สมัยสถาปนาอาณาจักร และด้วยวิถีชีวิตที่ยังคงเรียบง่าย ไม่ไหลไปตามกระแสโลกปัจจุบัน รวมถึงมีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตร และมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วัดเชียงทอง, วัดวิชุน, วัดพระธาตุพูสี, ถ้ำติ่ง และถนนคนเดิน หลวงพระบาง
แขวงพงสาลี
เป็นหนึ่งในแขวงของประเทศลาวที่ตั้งอยู่ตอนบนสุดของประเทศ ล้อมรอบด้วยภูเขา 450 เมตร ถึง 1800 เมตร อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เป็นดินแดนของลาวที่ติดกับพรมแดนของประเทศจีนและเวียดนาม ทำให้กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่มีการเข้ามายึดครองจากหัวเมืองใหญ่ทั้งหลายในอดีต ดังมีร่องรอยของสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสปรากฏให้เห็นตามซอยต่าง ๆ แม้จะถูกอาคารพาณิชย์ของจีน ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยบดบังไปส่วนใหญ่
สถานที่ท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์ชนเผ่า, ตลาดเช้า, ยอดภูฟ้า และพระธาตุภูฟ้า
แขวงสะหวันนะเขด
ตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางใต้ของประเทศ ใหญ่อันดับที่ 1 ของประเทศลาว มีทิศตะวันตกติดกับประเทศไทย และเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2549 ได้มีพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 สะหวันนะเขด-มุกดาหาร อย่างเป็นทางการ ซึ่งสะพานนี้เป็นเส้นทางเชื่อมตะวันออก-ตะวันตก จากเวียดนามถึงพม่า ทำให้แขวงสะหวันนะเขดกลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญอีกแห่งของลาว
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วัดพระธาตุโพน, วัดพระธาตุอิงฮัง, วัดรัตนรังษี, วัดชัยสมบูรณ์, วัดเจ้า, ปราสาทเรือนหิน, อนุสาวรีย์ท่านกุรวงศ์, ตลาดสิงคโปร์, โบสถ์เซนต์เทเรซ่า, เซโปน, ป่าสงวนภูช้างแห, พิพิธภัณฑ์แขวงสะหวันนะเขต, พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ และถนนสีเมือง
แขวงเวียงจันทน์
ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2532 แขวงเวียงจันทน์ เดิมได้แบ่งออกเป็น 2 แขวง คือ แขวงเวียงจันทน์ปัจจุบัน และนครหลวงเวียงจันทน์ ที่มีเขตเวียงจันทน์ซึ่งเป็นเมืองหลวงตั้งอยู่ ทั้งนี้ ฝรั่งเศสได้สร้างเมืองเวียงจันทน์ ขึ้นใหม่ ให้ ม.ปาวี เป็นข้าหลวงใหญ่คนแรก เวียงจันทน์ ในสมัยฝรั่งเศสปกครองได้ชื่อว่า ปารีสตะวันออก จนได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2498 และถูกปลดแอกโดยพรรคปฏิวัติประชาชนลาวเมื่อ พ.ศ 2517
สถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ วังเวียง เมืองเล็ก ๆ ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางเหนือประมาณ 154 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงพระบาง 210 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำซอง สภาพทางภูมิศาสตร์เป็นที่ราบระหว่าง
ภูเขา มีภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาจนเป็นที่ มาของชื่อ กุ้ยหลินเมืองลาว อีกทั้งยังมีป่าไม้ มีลำธารที่สมบูรณ์ และมีถ้ำให้เที่ยวชมหลายแห่ง จึงทำให้ วังเวียง ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่สวยงามแห่งหนึ่งของลาว
แขวงเชียงขวาง
ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ ติดกับประเทศเวียดนาม ความสูงเฉลี่ยจากระดับน้ำทะเลปานกลางคือประมาณ 1200 เมตร แขวงนี้ถูกถล่มอย่างร้ายแรงในช่วงสงครามเวียดนาม เป็นเหตุให้ต้องย้ายเมืองเอกจากเมืองเชียงขวางมาเป็นเมืองโพนสวรรค์ ตั้งแต่โบราณเมืองนี้รู้จักกันในชื่อว่า เมืองพวน ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่ที่นั่น หรืออพยพไปอยู่ที่อื่นเรียกว่า ชาวไทพวน และบริเวณนี้ยังมี ทุ่งไหหิน อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2513 แขวงเชียงขวาง เคยเป็นสมรภูมิรบอันดุเดือดนับครั้งไม่ถ้วน อาจเพราะว่าในอดีตเชียงขวาง คือจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศลาว ในช่วงสงครามอินโดจีน ขบวนการลาวตัดสินใจตั้งกองบัญชาการใหญ่ขึ้นที่นี่ กองทัพอากาศอเมริกันจึงส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด บี 52 เข้ามาทิ้งระเบิดปูพรหมหมายทำลายล้างขบวนการลาวอย่างหนัก หมู่บ้านหลายร้อยแห่ง ตลอดจนวัดวาอารามถูกทำลายแทบทั้งหมด ส่งผลให้ราษฏรต้องอพยพเข้าไปอยู่ตามถ้ำและหุบเขา
อย่างไรก็ตาม แม้สงครามอินโดจีนจะผ่านพ้นไปนานแล้ว แต่บาดแผลและร่องรอยจากสงครามยังคงอยู่สภาพของสิ่งปรักหักพังของ เมืองคูน เมืองหลวงเก่ายังคงมีร่องรอยให้เห็นอยู่โดยทั่วไป ซึ่งจากซากปรักหักพังบางแห่ง ทางรัฐบาลลาวได้อนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลัง ได้เห็นถึงพิษภัยของสงครามที่เกิดขึ้นเมื่อในอดีต ร่องรอยของหลุมระเบิดขนาดใหญ่จากฝูงบิน บี 52 ของอเมริกันยังคงมีให้เห็นกันอยู่ทั่วไป ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นบ่อเลี้ยงปลาในนาข้าว ซากของลูกระเบิดน้ำหนักหลายสิบตันถูกดัดแปลงมาเป็นรั้วบ้าน เสาบ้าน รางข้าวหมู ที่นั่งเล่น เตาปิ้งบาร์บีคิวสำหรับนักท่องเที่ยว
ปัจจุบันเมืองเชียงขวางเริ่มฟื้นตัวเรื่อย ๆ ค่อยเป็นค่อยไป มีสิ่งดี ๆ มอบเป็นของกำนัลแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมเยือนเสมอ ชาวเชียงขวางไม่เคยลืมอดีตที่โหดร้ายของสงครามที่ผ่านมา สำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ได้แก่ ทุ่งไหหิน, ภูเบี้ย, เมืองโพนสะหวัน และเมืองคูน
และนี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศลาวเพียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราหยิบมานำเสนอ เพราะจริง ๆ แล้วหากมีโอกาสเพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดไป เที่ยวลาว เพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของประเทศเล็ก ๆ แต่รวยความสุข