น่ารักสุดๆ
|
|
« เมื่อ: มกราคม 08, 2011, 08:10:50 AM » |
|
ไขปริศนา(บางส่วน)เรื่อง'นก-ปลา'ตายกันเป็นเบือ
เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นกแบล็กเบิร์ดปีกแดง 5,000 ตัว ร่วงลงมาจากฟ้าในวันแรกของปีใหม่ 2011 ที่มลรัฐอาร์คันซอ จากนั้นยังมีข่าวนกตายเป็นจำนวนมากหล่นจากท้องนภาในมลรัฐอื่นๆ ของอเมริกาอีก แล้วก็เป็นข่าวพบปลาจำนวนมโหฬารเสียชีวิตตามท้องน้ำต่างๆ ในสหรัฐฯ ไม่นานต่อมามันก็ดูจะกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับทั่วโลกไปด้วยซ้ำ เมื่อมีรายงานเรื่องนกและปลาสิ้นชีพในเวลาใกล้ๆ กันเป็นจำนวนมาก โผล่ขึ้นมาทั้งที่สวีเดน, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, ไทย, บราซิล, และอื่นๆ สัตว์ที่ถึงฆาตมีทั้งนกพิราบ, แมงกะพรุน, ปลากระพง, อีกาแจ็กดอว์, … ดูเหมือนไม่มีสปีชี่ส์ไหนเลยที่มีภูมิคุ้มกันสามารถรอดพ้นจากความตายอันลึกลับนี้ได้ พวกที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด, นักทำนายวาระสุดท้ายของโลก, และพวกหัวสุดโต่งทางศาสนา ต่างพากันออกมาตักเตือนพยากรณ์ว่า วาระแห่งโลกาวินาศกำลังจะมาถึงแล้ว หรือมันจะเป็นเพราะมนุษย์อวกาศกำลังทดสอบคลื่นเสียงทรงอานุภาพที่จะสามารถขับไล่พวกเอเลี่ยนมนุษย์ต่างดาวได้ ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเนื่องจากกองทัพสหรัฐฯกำลังทดลองอาวุธพลังงานที่อาศัยกำลังจากดาวเทียม เป็นไปได้ไหมว่าสาเหตุมาจากการพ่นสารเคมี, ฝนดาวตก, หรือแผ่นดินไหว กำลังกระตุ้นมลพิษตกค้างซึ่งมาจากคราบน้ำมันจำนวนมหาศาลที่บริษัทบีพีทำเปรอะเปื้อนเอาไว้ในอ่าวเม็กซิโก คำว่า “Birds” (นก) กลายเป็นคำที่ถูกค้นหามากที่สุดบนเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ พวกบล็อกเกอร์ที่ใฝ่ใจศรัทธาคริสต์ศาสนา พากันโหลดข้อความจากคัมภีร์ไบเบิลมาไว้ในหน้าเว็บของพวกตน โดยเฉพาะข้อความที่อยู่ในบท 4 ของพระธรรมโฮเชยา (Hosea) ในภาคพันธสัญญาเดิม (คัมภีร์ไบเบิลเก่า) ที่กล่าวทำนายไว้ว่า “ เพราะฉะนั้น แผ่นดินจึงกำลังแห้งเหือด บรรดาคนที่อยู่ในแผ่นดินนั้นจะพากันเปล่าเปลืองไป ทั้งสัตว์ป่าในทุ่ง นกในท้องฟ้า และปลาในทะเลจะถูกกวาดไปหมด” แต่ในขณะที่การคาดเดาแพร่กระจายไปอย่างอึกทึกทั่วชุมชนและเครือข่ายชาวเน็ตทั้งหลายอยู่นี้ พวกผู้เชี่ยวชาญด้านชีวิตสัตว์ป่าก็ได้แต่มองตาปริบๆ และพยายามชี้แจงด้วยเสียงเรียบๆ “มันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรหรอก” เป็นคำกล่าวของ คริสเทน ชูเลอร์ นักวิทยาศาสตร์ซึ่งทำงานอยู่กับ ศูนย์สุขภาพสัตว์ป่าแห่งชาติ อันเป็นหน่วยงานที่สังกัดอยู่กับ สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) “มันไม่ได้มีอะไรที่เป็นเรื่องโลกาวินาศ หรือเป็นอะไรที่เกินเลยไปจากเรื่องปกติธรรมดาที่เราอาจจะสามารถพบเห็นได้ในสัปดาห์ใดสัปดาห์หนึ่งหรอก” และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ในเว็บไซต์ของ USGS มีข้อมูลซึ่งเป็นปูมบันทึกรายงานว่าด้วยนกกลุ่มต่างๆ ที่เสียชีวิตไปในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งปรากฏว่าแต่ละสัปดาห์ก็จะมีนกตายตั้งแต่หลายสิบตัวไปจนกระทั่งเป็นพันๆ ตัว เกี่ยวกับนกแบล็กเบิร์ดเสียชีวิตจำนวนมากในอาร์คันซอ ซึ่งชาวท้องถิ่นที่นั่นมีธรรมเนียมที่จะจุดพลุดอกไม้ไฟกันอย่างเอิกเกริกเป็นการต้อนรับวาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เจ้าหน้าที่หลายคนสันนิษฐานว่าเสียงที่ดังกึกก้องกัมปนาทดังกล่าวนี่แหละ น่าจะทำให้ฝูงนกเกิดตื่นตระหนกจนนำไปสู่การตายหมู่ “ดูเหมือนว่าเสียงที่ดังกึกก้อง ซึ่งมีรายงานว่าปรากฏขึ้นมาเพียงไม่นานก่อนที่พวกนกจะเริ่มร่วงลงจากท้องฟ้านั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้นกเหล่านี้โผบินขึ้นมาจากที่อยู่ของพวกมัน” ศูนย์สุขภาพสัตว์ป่าแห่งชาติของ USGS กล่าวไว้ในคำแถลงฉบับหนึ่งซึ่งโพสต์อยู่บนเว็บไซต์ของคณะกรรมาธิการสัตว์ป่าและปลามลรัฐอาร์คันซอ “พลุและดอกไม้ไฟที่ถูกจุดเพิ่มขึ้นมาอีกในพื้นที่ดังกล่าว อาจจะบังคับให้นกเหล่านี้ต้องบินด้วยความสูงที่ต่ำกว่าปกติ และจึงชนเข้ากับบ้านเรือน, ยานพาหนะ, ต้นไม้, และวัตถุอื่นๆ พวกนกแบล็กเบิร์ดนั้นมีสายตาที่แย่มากในตอนกลางคืน และธรรมดาแล้วพวกมันจะไม่บินในช่วงกลางคืน” ในมลรัฐลุยเซียนา ชูเลอร์บอกว่า อากาศที่หนาวเย็นมากน่าจะเป็นสาเหตุที่คร่าชีวิตนกราวๆ 500 ตัวของที่นั่น ขณะเดียวกัน ที่มลรัฐแมริแลนด์ ชาวบ้านชาวเมืองที่นั่นต่างตระหนกตกใจกับข่าวที่ว่า มีปลาถึง 2 ล้านตัวตายไปในแถบอ่าวเชสซาพีก ทว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ได้รีบออกมาปลอบขวัญบรรเทาความวิตกของพวกเขา โดยระบุว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นผลมาจากอากาศซึ่งหนาวเย็นลงอย่างกระทันหันผิดปกติ บวกกับการที่มีปลาสายพันธุ์หนึ่งที่รู้จักกันในชื่อว่า ปลาสปอต (spot fish) มีจำนวนประชากรแน่นล้นเกินไปอยู่แล้ว “สาเหตุต่างๆ ทางธรรมชาติดูน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ปลาเหล่านี้ตาย” นี่เป็นข้อความที่อยู่ในคำแถลงของสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งมลรัฐแมริแลนด์ “ปลาสปอตอาจจะรอดชีวิตได้ลำบากในอุณหภูมิที่หนาวเย็นลง และความอ่อนไหวที่จะถูกคร่าชีวิตในฤดูหนาวของสายพันธุ์นี้ ก็เป็นสิ่งที่มีหลักฐานบันทึกที่สามารถพิสูจน์ยืนยันได้” คำแถลงนี้ระบุ พร้อมตั้งชี้ด้วยว่า อุณหภูมิบนผิวน้ำของอ่าวแห่งดังกล่าวในเดือนที่แล้ว อยู่ในระดับหนาวที่สุดในรอบ 25 ปีทีเดียว สำหรับการเสียชีวิตของนกและปลาในที่อื่นๆ ของโลกนี้ หลายๆ กรณีกำลังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนหาสาเหตุกันอยู่ ดั๊ก อิงลีย์ แห่งสหพันธ์สัตว์ป่าแห่งชาติของสหรัฐฯ ให้ความเห็นทั่วๆ ไปว่า สาเหตุที่พบเห็นกันบ่อยครั้งที่สุดสำหรับกรณีการตายหมู่ของพวกนกทั้งหลาย ก็คือ การติดโรค ถึงแม้เรื่องมลพิษ ตลอดจน “อุบัติเหตุแบบธรรมดาสามัญ” ก็อาจเป็นชนวนทำให้เกิดการถึงฆาตกันเป็นจำนวนมากๆ ได้เช่นกัน เรื่องอย่างนี้บ่อยครั้งทีเดียวไม่ค่อยเป็นที่ตระหนักรับรู้ของมนุษย์เราๆ ท่านๆ เขากล่าวทางโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า เหตุการณ์แบบนี้ส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นในพื้นที่ซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ถิ่นที่อยู่ของมนุษย์ กล่าวคือไปเกิดอยู่ในป่า แต่เนื่องจากในยุคของอินเทอร์เน็ตอย่างเช่นทุกวันนี้ มันเป็นเรื่องยากที่เรื่องอะไรก็ตามทีจะยังคงเป็นเรื่องปิดลับไม่มีผู้ใดทราบกันได้อีกต่อไป เสียงเล่าขานเกี่ยวกับนกตายหมู่สามารถแพร่กระจายไปด้วยอัตราเร็วอย่างชนิดที่เคยปรากฏมาก่อน “ในปี 1960 ถ้ามีนกจำนวนมากจำนวนหนึ่งเริ่มร่วงลงจากฟากฟ้า มันอาจจะถูกสังเกตพบเห็นโดยผู้คนบางคน มันอาจจะถูกนำไปรายงานไว้ในหน้าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ทว่ามันอาจจะไม่เคยถูกเผยแพร่ไกลไปกว่านั้น” รอเบิร์ต ทอมป์สัน ศาสตราจารย์ด้านวัฒนธรรมป๊อป แห่งมหาวิทยาลัยซีราคิวส์ ให้คำอธิบายในเชิงวัฒนธรรมการสื่อสาร “มาถึงเวลานี้เรื่องราวชนิดนี้บางส่วน เนื่องจากมันออกไปทางอินเทอร์เน็ต ถ้าหากมันสามารถกระตุ้นความสนใจได้มากพอ มันก็สามารถทำให้เรื่องราวนี้กระโจนพรวดขึ้นเป็นข่าวระดับชาติได้เลยทีเดียว” เขาบอก “ขอให้ยอมรับความจริงกันเถอะ การที่มีนกจำนวนมากร่วงลงมาจากฟ้า หรือปลาเยอะแยะนอนหงายท้องน่ะ มันเป็นเรื่องที่กระตุ้นความสนใจได้มากจริงๆ นะ”
|