Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3

Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
 นักวิทยาศาสตร์เผย “โมเสส” อาจเคยข้ามทะเลแดงได้จริงตามพระคัมภีร์ระบุ
TARADTHONG.COM
ธันวาคม 28, 2024, 07:37:39 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: นักวิทยาศาสตร์เผย “โมเสส” อาจเคยข้ามทะเลแดงได้จริงตามพระคัมภีร์ระบุ  (อ่าน 5143 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: กันยายน 22, 2010, 10:07:50 AM »

นักวิทยาศาสตร์เผย “โมเสส” อาจเคยข้ามทะเลแดงได้จริงตามพระคัมภีร์ระบุ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


เทเลกราฟ – นักวิทยาศาสตร์เผย การข้ามทะเลแดงของ “โมเสส” ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นที่สุดในพระคัมภีร์เก่า (The Old Testament) อาจเคยเกิดขึ้นจริง
       
       ผลการศึกษาใหม่ระบุว่า กระแสลมที่รุนแรงอาจทำให้เกิดปรากฎการณ์น้ำทะเลแยกออกเป็น 2 ข้างได้จริงดังเรื่องราวในพระคัมภีร์
       
       อย่างไรก็ตาม จุดที่นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา “ปรากฏการณ์มหัศจรรย์” ดังกล่าวไม่ใช่ทะเลแดง แต่เป็นบริเวณใกล้เคียงแถบดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์
       
       นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯซึ่งศึกษาแผนที่โบราณของดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนล์ ชี้จุดที่โมเสสอาจพาชาวอิสราเอลข้ามทะเล ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
       
       นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ในอดีตสาขาหนึ่งของแม่น้ำไนล์เคยไหลลงสู่ทะเลสาบ (lagoon)ซึ่งเรียกกันว่า ทะเลสาบทานิส (Lake of Tanis)
       
       จากการวิเคราะห์หลักฐานทางโบราณคดี ภาพถ่ายดาวเทียม และแผนที่ ทำให้นักวิจัยสามารถคาดเดาความลึกและการไหลของน้ำเมื่อ 3,000 ปีก่อน จากนั้นจึงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทางสมุทรศาสตร์จำลองอิทธิพลของกระแสลมแรงที่พัดผ่านน้ำลึก 6 ฟุต ในยามค่ำคืน



       นักวิจัยพบว่า ลมตะวันออกความเร็ว 63 ไมล์ต่อชั่วโมงที่พัดผ่านอย่างต่อเนื่องนาน 12 ชั่วโมง สามารถผลักดันให้น้ำไหลกลับเข้าไปในทะเลสาบและแม่น้ำ ซึ่งจะทำให้เกิดช่องทางเดินยาว 2 ไมล์และกว้าง 3 ไมล์ ที่มีกำแพงน้ำอยู่ 2 ด้าน เป็นเวลา 4 ชั่วโมง
       
       ทันทีที่ลมอ่อนกำลัง กำแพงน้ำทั้ง 2 ด้านจะไหลกลับเข้าหากันอย่างรวดเร็ว
       
       รายงานดังกล่าวถูกเผยแพร่วานนี้(21)ในวารสารออนไลน์ “วัน” (ONE) ของ พับลิก ไลบรารี ออฟ ไซนส์
       
       คาร์ล ดรูส์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยด้านบรรยากาศแห่งชาติ เมืองโบลเดอร์ มลรัฐโคโลราโด ระบุว่า “เราสามารถอธิบายการแยกของน้ำได้ด้วยกลศาสตร์ของไหล กระแสลมจะทำให้น้ำเคลื่อนที่ไปตามกฎกายภาพ จนเกิดช่องทางที่คนสามารถเดินข้ามไปได้อย่างปลอดภัยชั่วขณะ จากนั้นน้ำก็จะไหลกลับเข้าหากันอย่างรวมเร็ว”
       
       “หลายคนตื่นเต้นกับเรื่องราวในพระธรรมอพยพ (Exodus) และสงสัยว่ามันเคยเกิดขึ้นจริงหรือไม่ งานวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่า การแยกตัวของน้ำออกเป็น 2 ข้างมีความเป็นไปได้ในทางฟิสิกส์”
       
       การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งเผยว่า กระแสลมตะวันตกเฉียงเหนือความเร็ว 74 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งใกล้เคียงกับพายุเฮอริเคน อาจสามารถแหวกกระแสน้ำใกล้คลองสุเอซในปัจจุบันออกเป็น 2 ด้านจนเห็นแนวปะการัง และทำให้คนสามารถเดินข้ามไปมาได้
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!