loveyou
|
|
« เมื่อ: กรกฎาคม 27, 2010, 09:38:38 AM » |
|
โหมสร้างทะลัก 64 โครงการส่งสัญญาณร่อแร่ ศูนย์วิจัยประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ หวั่น อีก 2 ปี เกิดภาวะบ้านล้นตลาด...
ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทยหวั่นอีก 2 ปีข้างหน้าเกิดภาวะบ้านล้นตลาด เหตุรัฐหนุนสร้างบ้านบีโอไอที่ไม่ตรงความต้องการ พบ 64 โครงการหยุดขายแล้วส่งสัญญาณเตือนภัยเศรษฐกิจ ขณะบ้านเหลือขายในท้องตลาดยังทะลักอีกกว่า 1 แสนยูนิต
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหารศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตทแอฟแฟร์ส เปิดเผยว่า ได้สำรวจตลาดที่อยู่อาศัย 1,266 โครงการทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่ยังขายอยู่ ณ เดือนมิถุนายน 2553 และสำรวจโครงการ
อสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท 186 โครงการที่เปิดตัวใหม่ในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 53 และได้ทำการวิเคราะห์เจาะลึก โดยแบ่งกรุงเทพมหานครเป็น 78 ทำเล ในแต่ละทำเลยังแยกออกเป็นประเภทที่อยู่อาศัย 6 แบบ และในแต่ละประเภทที่อยู่อาศัย ยังแยกตามระดับราคาอีก 9 ระดับ
ทั้งนี้ ในจำนวน 186 โครงการที่เปิดใหม่ในครึ่งปีแรกของปี 53 นั้นมีจำนวน 45,649 หน่วย รวมมูลค่า 109,582 ล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยจะมีจำนวน 184 โครงการ จำนวน 43,783 หน่วย รวมมูลค่า 108,377 ล้านบาท หรือหน่วยละ 2.475 ล้านบาท
โดยหากพิจารณาจากตัวเลขครึ่งแรกของปีข้างต้น ก็อาจประมาณการได้ว่าตลอดปี 2553 จะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ทั้งหมดประมาณ 87,574 หน่วย รวมเป็นเงิน 216,754 ล้านบาท โดยนัยนี้จำนวนหน่วยจะเพิ่มขึ้นถึง 52% จากปีที่แล้ว และการลงทุนจะเพิ่มขึ้น 18% จากปีที่แล้ว ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นสูงมากอย่างน่าแปลกใจ
ทั้งนี้ สาเหตุที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเนื่องจากผลจากการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) จึงทำให้คาดว่าตลอดปี 2553 นี้จะมีการสร้างที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก สิ่งที่พึงระวังก็คือภาวการณ์ล้นตลาดที่อาจเกิดขึ้นหลังการสร้างเสร็จในอีกประมาณ 2 ปีข้างหน้า ทั้งนี้เพราะบ้านราคาค่อนข้างต่ำ (บ้าน BOI : บ้านแนวราบ ราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท และอาคารชุดไม่เกิน 1 ล้านบาท) ไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดมากนักในช่วงปี 2550-2552 ดังจะเห็นได้ว่าราคาเฉลี่ยของบ้านที่ขายในท้องตลาดในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้น ในภาวะขณะนี้มีที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่ขายไปแล้วในช่วงครึ่งแรกของปี 2553 ถึง 42,448 หน่วย ในขณะที่ปี 2552 ทั้งปีขายได้เพียง 59,085 หน่วยจากการกระตุ้นของผู้ประกอบการ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังมีบ้านที่เหลือขาย (ส่วนมากยังไม่ได้สร้าง) อยู่ในท้องตลาดประมาณ 110,666 หน่วย ซึ่งมากพอสมควร แต่หากเทียบกับบ้านทั้งหมดที่สร้างเสร็จทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจำนวน 4.3 ล้านหน่วย ก็เป็นสัดส่วนเพียง 2.56% ในขณะที่เมื่อช่วงวิกฤติปี 2540 มีจำนวนหน่วยรอขายถึง 156,927 หน่วย ในขณะที่มีจำนวนบ้านทั้งหมดเพียง 3.11 ล้านหน่วย หรือเป็นสัดส่วนสูงถึง 5.05% ดังนั้น จึงสะท้อนให้เห็นว่า ภาวะตลาดขณะนี้ยังไม่ได้เกิดวิกฤติหรือมีความน่าเป็นห่วง (ยกเว้นในอนาคตที่มีบ้าน BOI เกิดมากขึ้นเป็นพิเศษ)
จากการสำรวจตลาดยังได้ข้อค้นพบที่น่าสนใจและถือเป็นเครื่องเตือนภัยเศรษฐกิจได้ประการหนึ่ง ก็คือ มีโครงการที่หยุดการขายไปแล้ว 64 โครงการ ซึ่งหากเทียบจากโครงการที่สำรวจ 1,266 โครงการ ก็ถือว่ายังไม่มาก หรือแม้แต่เทียบกับโครงการที่ยังมีหน่วยขายเกิน 20 หน่วย รอการขายอยู่จำนวน 824 โครงการ ก็ยังเป็นเพียง 8% เท่านั้น ปัญหาที่โครงการหยุดไปเนื่องจากสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อ (31%), ขายไม่ออก (23%), ไม่ผ่าน EIA (22%) เป็นต้น.
|