Cover Letter คือ จดหมายแนะนำตัว เสริมจุดเด่นเหนือคู่แข่ง

[น่ารักสุดๆ]

Cover Letter คือ จดหมายแนะนำตัว เสริมจุดเด่นเหนือคู่แข่ง

อย่างที่รู้กันแล้วว่า Resume เป็นจดหมายสมัครงาน ที่มีรูปแบบการกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครค่อนข้างตายตัว ทำให้บริษัทไม่สามารถรู้รายละเอียดอื่น ๆ ของผู้สมัครงานได้ดีเท่าที่ควร จดหมายแนะนำตัว Cover Letter จึงถูกนำมาใช้ปะหน้าควบคู่กับ Resume เพื่อบ่งบอกเจตจำนงค์ที่ชัดเจนของผู้สมัคร จึงอาจเรียกได้ว่า Cover Letter เป็นการเสริมจุดเด่นให้เหนือคู่แข่งที่สมัครตำแหน่งเดียวกัน และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน

          ที่สำคัญ ปัจจุบันบริษัทหลายแห่งเลือกใช้ Cover Letter เป็นเครื่องมือสำคัญในการคัดสรรบุคลากรเข้าทำงาน ดังนั้น การเขียน Cover Letter จึงต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับความสนใจ และระบุตำแหน่งที่ต้องการสมัคร โดยผู้สมัครควรอธิบายถึงความสนใจในตำแหน่งและบริษัทนั้น ๆ รวมถึงบอกเล่าประสบการณ์การทำงาน ทักษะความรู้ และความสามารถพิเศษ เพื่อแสดงให้เห็นเหตุผลที่บริษัท จะให้ความสำคัญและพิจารณาตำแหน่งงานให้แก่ผู้สมัคร

          นอกจากนี้ ในจดหมายแนะนำตัว Cover Letter อาจระบุวัน เวลา หรือวิธีการที่ผู้สมัครจะติดต่อกลับไปยังบริษัท เพื่อติดตามผลของจดหมายสมัครงาน และติดต่อขอนัดสัมภาษณ์

          รูปแบบการเขียน Cover Letter

          การเขียน Cover Letter ควรอยู่ในรูปแบบของจดหมายธุรกิจ โดยที่ทุกตัวอักษรจะต้องได้รับการจัดวางอย่างถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงการใช้คำต้องถูกต้องเหมาะสม ความยาวเพียง 1 หน้ากระดาษ ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ส่วนสำคัญ ดังนี้
 
 1. ส่วนขึ้นต้นจดหมาย (Salutation)

          ในส่วนนี้ ผู้สมัครต้องกำหนดเจาะจงลงไปว่า จะส่งถึงใคร ตำแหน่งอะไร หากทราบชื่อของผู้ที่ต้องการจะส่งถึง ควรระบุชื่อลงไปจดหมายด้วย เพราะจะเป็นการสร้างความประทับใจในขั้นแรกได้อย่างง่ายดาย หากไม่ทราบอาจโทรศัพท์สอบถามกับทางบริษัทนั้น ๆ ดูก็ได้ แต่ในกรณีที่บริษัทประกาศรับสมัครงานอย่างเด่นชัด ก็สามารถระบุถึง ผู้จัดการฝ่ายบุคคล หรือ Human Resource Manager ได้เช่นกัน

 2. ส่วนแนะนำ (Introduction)

          เนื้อหาส่วนนี้ ควรอยู่ในรูปแบบสรุปย่อสั้น ๆ เพื่อบอกถึงตำแหน่งงานที่คุณสนใจ รวมถึงระบุที่มาการได้ข้อมูลของตำแหน่งงานดังกล่าวจากแหล่งใด ในวันที่เท่าไหร่ ในกรณีที่มีบุคคลให้การแนะนำในตำแหน่งดังกล่าว คุณก็ควรระบุชื่อบุคคลดังกล่าวอย่างเด่นชัดลงไปด้วย

 3. ส่วนเนื้อหาหลัก (Body)

          ถือเป็นส่วนสำคัญมาก ที่จะต้องเขียนอธิบายให้บริษัทเห็นถึงคุณสมบัติของผู้สมัครที่เหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้น ๆ รวมถึงทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายงานดังกล่าวโดยตรง ทั้งนี้ ควรระลึกไว้เสมอว่า อย่าเขียนข้อความซ้ำกับในประวัติย่อจาก Resume โดยเด็ดขาด

 4. ส่วนสรุป (Closing)

          ในส่วนปิดท้าย ควรแสดงว่าผู้สมัครมีความสนใจในตำแหน่งที่สมัคร และความปรารถนาที่จะได้รับการนัดสัมภาษณ์งานในตำแหน่งดังกล่าว ที่สำคัญควรใส่เบอร์โทรศัพท์ที่สามารถติดต่อคุณได้ด้วย หรืออาจระบุว่าจะติดต่อกลับไปที่บริษัท 1-2 สัปดาห์หลังส่งเอกสารสมัครงาน เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทได้รับจดหมายดังกล่าว พร้อมกันนี้ควรระบุด้วยว่าผู้สมัครยินดีตอบคำถามหรือให้ข้อมูลเพิ่มเติมหากบริษัทต้องการ

          ทั้งนี้ บริเวณหัวจดหมาย Cover Letter ต้องมีที่อยู่ของผู้สมัคร และผู้ที่จะส่งถึง ขณะที่ด้านล่าง ต้องมีลายเซ็นต์ที่อยู่เหนือชื่อของตัวอักษรพิมพ์ของผู้สมัคร และอย่าลืมว่า Cover Letter เป็นใบเบิกทางที่ดีในการร่อนจดหมายสมัครงาน ดังนั้น ผู้สมัครจึงควรใช้ความรู้สึกเขียน และสร้างความน่าสนใจให้เกิดขึ้น เพราะ Cover Letter อาจช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้เข้ามานั่งในห้องสัมภาษณ์งานก็เป็นได้