เตือนภัย คนกด ATM แก๊งมิจฉาชีพฉกเงิน
เตือนภัย คนกด ATM แก๊งมิจฉาชีพฉกเงิน (ไทยโพสต์)
เตือนภัยแก๊งมิจฉาชีพฉกเงินจากช่องจ่ายเงินของตู้ ATM โดยนำสิ่งแปลกปลอมไปอุดไว้ไม่ให้เงินไหลออกหลังจากถูกกด แล้วตลบหลังเมื่อผู้ใช้บริการกดเงินเสร็จ "กสิกร" ยันมีระบบป้องกันอย่างดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการส่งต่อจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้ระมัดระวังการใช้บริการตู้ ATM ช่องของการจ่ายเงินของตู้ ATM ว่ามีการเปิด-ปิดเร็วผิดปกติ หากไม่สามารถนำเงินสดออกมาได้ทัน เงินจะดูดกลับเข้าไปในเครื่อง และทำให้ผู้ที่มาใช้บริการต่อสามารถนำเงินที่ค้างอยู่ออกมาได้ จนกลายเป็นช่องทางของแก๊งมิจฉาชีพ
ทั้งนี้ ในความเป็นจริง ระบบ ATM ของธนาคารพาณิชย์ เมื่อเกิดการสั่งจ่ายเงินออกมาแล้ว หากลูกค้าไม่ดึงเงินออกมาทันตามเวลาที่กำหนด เงินจะถูกส่งกลับไปในกล่องเก็บเงินภายในตู้ ATM อีกครั้ง ดังนั้น ผู้ที่มาใช้บริการต่อจึงไม่สามารถนำเงินจำนวนดังกล่าวออกมาได้
สำหรับกรณีแก๊งมิจฉาชีพที่ระบาด เกิดจากการนำเอาวัสดุอุปกรณ์อื่นไปอุดช่องจ่ายเงินเพื่อไม่ให้ไหลออกมา ซึ่งเงินส่วนนี้จะถูกหักบัญชีเรียบร้อยแล้ว และเมื่อแก๊งมิจฉาชีพไปใช้บริการต่อ เงินจำนวนดังกล่าวจะไหลออกมา ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์ ได้มีการแจ้งเตือนให้ผู้ใช้บริการตู้ ATM ระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะก่อนใช้บริการ ให้ตรวจสอบบริเวณช่องรับเงินมีความผิดปกติหรือไม่
นายชุรินทร์ ลิ่มสุวรรณโรจน์ ผู้บริหารงานฝ่ายสนับสนุนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ตู้ ATM ของธนาคารถูกตั้งโปรแกรมให้มีการเปิด-ปิดช่องรับเงินภายใน 35-40 วินาที ซึ่งมากพอที่ลูกค้าจะสามารถนำเงินออกมาได้ แต่หากใช้เวลาเกินจากนี้ ระบบอัตโนมัติจะดึงเงินกลับไปในกล่องเก็บเงินตามเดิม
ส่วนกรณีการนำอุปกรณ์แปลกปลอมเข้าไปอุดช่องรับเงินตู้ ATM นั้น ส่วนใหญ่มักเกิดกับตู้ ATM รุ่น 4789 ซึ่งขณะนี้ได้ปรับเปลี่ยนให้มีอุปกรณ์ป้องกันอย่างรัดกุม จนไม่สามารถนำอุปกรณ์แปลกปลอมไปติดตั้งได้ นอกจากนี้ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังได้ติดตั้งระบบป้องกันการอ่านข้อมูลจากบัตร ATM ที่เรียกกันว่า ATM Skimming ครบทุกตู้ทั่วประเทศตั้งแต่ 2 ปีก่อน ขณะเดียวกัน ตู้ ATM รุ่นใหม่ยังมีข้อบังคับให้ผู้ผลิตมีการติดตั้งระบบดังกล่าวด้วย จึงเชื่อว่าปัญหาการทุจริตในทำนองนี้จะหมดไป