พนักงานเคเอฟซีเดือดร้อนหนัก ร้อง ครส.ถูกนายจ้างเอาเปรียบ-เลิกจ้างไม่เป็นธรรม ทั้งกดค่าแร

[น่ารักสุดๆ]

พนักงานเคเอฟซีเดือดร้อนหนัก ร้อง ครส.ถูกนายจ้างเอาเปรียบ-เลิกจ้างไม่เป็นธรรม ทั้งกดค่าแรงแถม

หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 10 พฤษภาคม 2554 04:55:37 น.
ที่กระทรวงแรงงาน นายชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ รองประธานคณะกรรมสมานฉันท์แรงงานไทย พร้อมด้วยนายกฤษ  สรวงอารนันท์ น.ส.ศิวพร สมจิตร และนางอภันตรี เจริญศักดิ์ ผู้จัดการเขต ร้านอาหารฟาสต์ฟูดชื่อเคเอฟซี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ยัม เรสเทอรองส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าร้องเรียนคณะกรรมการแรงงาน แรงงานสัมพันธ์ (ครส.) เนื่องจากถูกนายจ้างเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม โดยให้เหตุผลว่าทำผิดระเบียบวินัยของบริษัท

น.ส.ศิวพร กล่าวว่า สาเหตุที่แท้จริงของการถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม เกิดขึ้นจากตนและพวกซึ่งเป็นผู้จัดการเขต คุมสาขาของร้านเคเอฟซี จำนวน 33 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพ สมุทรปราการ และปทุมธานี ซึ่งมีพนักงานประมาณ 900 คน ถูกนายจ้างเอารัดเอาเปรียบจากการจ้างงาน โดยเฉพาะพนักงานระดับล่าง และผู้จัดการร้าน ถูกกดขี่ค่าจ้างต่ำกว่าร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟูดอื่นๆ โดยนายจ้างให้ค่าจ้างเพียงแค่ชั่วโมงละ 27 บาท หรือตกเดือนละ 5,200 บาท แต่ต้องทำงานหนักโดยที่ไม่ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนมาหลายปี แต่หากมีการปรับขึ้นเงินเดือนก็ปรับเพียงแค่ 100 — 200 บาท ซึ่งเป็นรายได้ต่ำสวนทางกับค่าครองชีพที่สูง

“แต่ละวันพนักงาน 900 คน ต้องกินกากไก่ และมาม่า หนำซ้ำทำงานดึกเลิกตีหนึ่ง ก็ไม่มีค่ารถให้กลับบ้าน ทั้งที่แต่ละปีบริษัทมีผลกำไร 5,000 — 6,000 ล้านบาท ดังนั้นพวกเราจึงได้รวมตัวกันลงชื่อพนักงานจำนวน 260 คนยื่นข้อเรียกร้อง 10 ข้อ ต่อนายจ้าง เช่น ขอให้ปรับขึ้นเงินเดือนขึ้น ปรับโบนัส ปรับปรุงสวัสดิการ ตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จัดให้มีวันหยุดงานตามวันหยุดประเพณี ปรับปรุงค่ารักษาพยาบาล ค่ารถ จัดอาหารฟรีแก่พนักงานวันละ 1 มื้อ แต่พอนายจ้างทราบเรื่องกลับคิดว่าพวกเราจะปลุกปั่นให้พนักงานแข็งข้อต่อนายจ้าง” น.ส.ศิวพรกล่าว

น.ส.อภันตรี กล่าวว่า ในวันนี้ทางบริษัทได้เรียกพวกตน 3 คน เข้าไปพบ เพื่อขอให้เซ็นใบลาออกพร้อมกับซองขาว และยังได้มีการประจานขึ้นชื่อบนเว็บไซต์ของบริษัท ซึ่งถือเป็นการหมิ่นประมาท เพราสิ่งที่พวกตนเรียกร้อง เป็นการทำเพื่อบริษัทด้วยซ้ำ เนื่องจากขณะนี้มีพนักงานจำนวนมากเริ่มเขียนใบลาออก เพราะทนการถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้างไม่ได้ การที่พวกตนออกมาสู้เรื่องนี้ก็เพื่อให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม ไมได้มีเจตนาที่จะก่อการใดๆ

นายชัยสิทธิ์กล่าวว่า การกระทำของนายจ้างบริษัทเคเอฟซี เป็นที่ชัดเจนว่าเข้าข่ายเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่นายจ้างไมได้ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ 2518 ดังนั้นทางคณะกรรมการสมานฉันท์จะนำเรื่องนี้เข้าหารือ เพื่อออกมาตรการทางสังคมรณรงค์ไม่ให้คนไทยกินอาหารเคเอฟซี และจะทำหนังสือร้องเรียนไปยังองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) รวมทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และจะยื่นเรื่องร้องเรียนไปที่นายกรัฐมนตรี ส่วนมาตรการสุดท้ายจะดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลแรงงานต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพนักงาน

รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะยื่นฟ้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์เนื่องจากการเลิกจ้างดังกล่าวเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โดยจะขอให้นายจ้างรับกลับเข้าทำงาน และจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันเลิกจ้างจนถึงวันรับกลับ