|
หัวข้อ: รายได้ดี! รับซื้อตุ๊กแก ส่งขายเมืองนอก เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ สิงหาคม 18, 2010, 09:13:47 PM รายได้ดี! รับซื้อตุ๊กแก ส่งขายเมืองนอก
กลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทั่วบ้านทั่วเมือง หลังมีเรื่องราวฮือฮาเผยแพร่ทางโลกไซเบอร์ว่า มีพ่อค้าหัวใส "รับซื้อตุ๊กแก" สนนราคาตั้งแต่หลักพันจนถึงหลักแสนบาท เพื่อนำขายส่งให้กับพ่อค้าแม่ค้าชาวมาเลเซีย ไต้หวัน จีน เป็นต้น เนื่องจากจะนำเซลล์ส่วนหางของตุ๊กแกไปสกัดเป็นส่วนผสมของยารักษาโรคเอดส์และโรคมะเร็ง หรือนำไปรับประทานเป็นยาชูกำลัง ฯลฯ ซึ่งทำให้หลายต่อหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ไปต่าง ๆ นานา และวันนี้กระปุกดอทคอมจะพาเพื่อน ๆ ไปค้นหาคำตอบกัน สำหรับตุ๊กแกที่พ่อค้าจะรับซื้อนั้น ต้องมีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 3 ขีด (300 กรัม) ขึ้นไป โดยราคาตุ๊กแกที่รับซื้อจะมีการลดหลั่นไปตามขนาดตัว เช่น น้ำหนัก 3.2 ขีด ราคา 13,000 บาท น้ำหนัก 3.5 ขีด ราคา 20,000 บาท น้ำหนัก 4 ขีด ราคา 30,000 บาท น้ำหนัก 4.5 ขีด ราคา 40,000 บาท น้ำหนัก 5.2 ขีด ราคา 60,000 บาท และน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ราคา 200,000 บาท ขณะที่ นายจิรายุสต์ หรือ เสี่ยต๊ะ เอียดตรง อายุ 42 ปี ชาวอำเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง นายทุนรับซื้อตุ๊กแก กล่าวว่า ตนรับซื้อตุ๊กแกจริง แต่ตุ๊กแกต้องมีน้ำหนัก 3 ขีดขึ้นไป ซึ่งหากใครมีตุ๊กแกขนาดดังกล่าว ตนยินดีจะซื้อในราคาตามน้ำหนักของตุ๊กแก เนื่องจากมียอดสั่งซื้อมาจากพ่อค้าชาวมาเลเซีย และชาวไต้หวันมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากผู้ใดสนใจต้องการขายตุ๊กแก สามารถโทรติดต่อมาได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 08-8386-2795 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม อาชีพจับตุ๊กแกขายไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมีผู้ประกอบอาชีพนี้มานานแล้ว โดยเฉพาะที่บ้านตาล อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นแหล่งผลิตตุ๊กแกตากแห้งส่งขายต่างประเทศ โดยพ่อค้าจะไปซื้อตุ๊กแกตามบ้านของชาวบ้านที่จับได้ตามธรรมชาติ หรือสถานที่เพาะเลี้ยง ในราคาตัวละ 2 - 5 บาท เพื่อนำมาตากแห้งส่งไปขายต่างประเทศ ในราคาคู่ละ 50 บาท เพื่อนำไปทำยาบำรุงร่างกาย ทางด้าน นายแพทย์พไพศาล เกื้ออรุณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การนำเซลล์ส่วนหางของตุ๊กแกไปใช้เป็นส่วนผสมของยารักษาโรคเอดส์และโรคมะเร็งนั้น ในทางการแพทย์จะมีการรักษาอยู่ 2 แบบ คือ 1. แพทย์แผนมาตรฐานที่มีการรักษาได้ผลไม่น้อยกว่า 95 % 2. การรักษาด้วยแพทย์ทางเลือก แต่วิธีแพทย์ทางเลือกยังไม่เป็นที่รับรองในเรื่องของวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงยังไม่เป็นที่ยอมรับว่าจะสามารถรักษาโรคได้ เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล |