หัวข้อ: ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ สิงหาคม 17, 2010, 04:31:25 PM ดอลล์ร่วงเทียบสกุลเงินหลักๆ หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ
ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและ เศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยที่ร่วงลงอย่างหนัก และญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 1.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.320 เยน จากระดับของวันศุกร์ (13 ส.ค.) ที่ 86.190 เยน และร่วงลง 1.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0393 ฟรังค์ จากระดับ 1.0507 ฟรังค์ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2817 ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2750 ดอลลาร์ และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5652 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5596 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 109.35 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 109.91 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7055 ดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีข้อมูลมากมายที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% จากเดือนมิ.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.5% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ร่วงลงสู่ระดับ 13 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากกระแสความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัว 0.4% ต่อปี หรือขยายตัว 0.1% ต่อไตรมาส ถึงแม้ว่าจะทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส แต่ตัวเลขจีดีพีก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะขยายตัว 2.3% ต่อปี และ 0.6% ต่อไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์ทั่วโลกชะลอตัวลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ญี่ปุ่นเริ่มเห็นผลน้อยลง ตัวเลขจีดีพีที่อ่อนแอในไตรมาส 2 ส่งผลให้ญี่ปุ่นสูญเสียอันดับประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกให้กับจีน โดยเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 10% ต่อปี ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 3% ในปีนี้ ขณะที่มูลค่าทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 2 สูงถึง 1.335 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เทียบกับญี่ปุ่นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพียง 1.286 ล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงโดยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. ค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและ เศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยที่ร่วงลงอย่างหนัก และญี่ปุ่นเปิดเผยว่าเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2 ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดิ่งลง 1.01% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.320 เยน จากระดับของวันศุกร์ (13 ส.ค.) ที่ 86.190 เยน และร่วงลง 1.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0393 ฟรังค์ จากระดับ 1.0507 ฟรังค์ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2817 ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2750 ดอลลาร์ และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.36% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5652 ดอลลาร์ จากระดับ 1.5596 ดอลลาร์ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.46% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 109.35 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 109.91 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทะยานขึ้น 0.23% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7055 ดอลลาร์สหรัฐ นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีข้อมูลมากมายที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 0.4% จากเดือนมิ.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.5% ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้สร้างบ้านที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ร่วงลงสู่ระดับ 13 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว และเป็นสถิติที่ปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังถูกกดดันจากกระแสความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจโลก หลังจากทางการญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ขยายตัว 0.4% ต่อปี หรือขยายตัว 0.1% ต่อไตรมาส ถึงแม้ว่าจะทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส แต่ตัวเลขจีดีพีก็ยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จะขยายตัว 2.3% ต่อปี และ 0.6% ต่อไตรมาส ซึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์ทั่วโลกชะลอตัวลงและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ญี่ปุ่นเริ่มเห็นผลน้อยลง ตัวเลขจีดีพีที่อ่อนแอในไตรมาส 2 ส่งผลให้ญี่ปุ่นสูญเสียอันดับประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกให้กับจีน โดยเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 10% ต่อปี ในขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 3% ในปีนี้ ขณะที่มูลค่าทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 2 สูงถึง 1.335 ล้านล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เทียบกับญี่ปุ่นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจเพียง 1.286 ล้านล้านดอลลาร์ นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงโดยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค. ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนก.ค. Mtsgold.com |