หัวข้อ: ไทยถอนตัวยูเนสโก หากรับรองพระวิหารมรดกโลกของเขมร เริ่มหัวข้อโดย: loveyou ที่ กรกฎาคม 28, 2010, 07:50:07 PM ไทยถอนตัวยูเนสโก หากรับรองพระวิหารมรดกโลกของเขมร
มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อเช้าวันที่ 28 กรกฏาคม มีมติให้นายสุวิทย์ สามารถถอนตัวจากการเป็นสมาชิกยูเนสโกได้ หากที่ประชุมมรดกโลก มีมติรับรองแผนการจัดการพื้นที่พระวิหาร โดยที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ยื่นประท้วงคัดค้านการพิจารณาแผนการจัดการพื้นที่ปราสาทพระวิหารของกัมพูชาเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกที่ประเทศบราซิลแล้ว โดยแหล่งข่าวระบุว่า คณะผู้แทนจากรัฐบาลไทยที่มี นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปฏิเสธที่จะยอมรับคณะกรรมการร่วม 7 ประเทศ ที่ตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาพื้นที่ทับซ้อน และ ไทยยังจะไม่เข้าร่วมในคณะกรรรมการร่วมดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า หากกรรมการพิจารณาลงมติกรณีขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารมรดกโลก (28 )ไม่ว่าทั้งในทางเปิดเผยหรือทางลับ ไทยจะถอนตัวจากภาคีสมาชิก หรือ วอล์คเอาท์ ออกจากการประชุมทันที ด้าน นายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมการประชุม ครม. ถึงการหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 กรกฎาคมว่าไทยยืนยันว่าจะคัดค้านการขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และการที่กัมพูชาเสนอแผนเพื่อการพัฒนาที่มีการรวมเอาพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งขณะนี้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้อยูที่ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นสถานที่จัดประชุมคณะกรรมการมรดกโลก และอาจจะมีการรายงานความคืบหน้าล่าสุดมาในที่ประชุม ครม. แต่ถ้าสถานการณ์ถึงที่สุดคือมีการขึ้นทะเบียนหรือว่าไทยคัดค้านไม่สำเร็จ นายกรัฐมนตรีก็ได้มอบหมายให้สมช.ไปพิจารณามาตรการต่างๆที่จะแสดงสิทธิ์เหนือพื่นที่อ้างสิทธิ์ "ถึงขนาดนี้เราก็ยังอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรอยู่ หากทางกัมพูชาเสนอเข้ามาในพื้นที่เราก็จะคัดค้าน ซึ่งมีหลายวิธี และหากการคัดค้านไม่เป็นผลก็จะมีมาตรการทางอื่น แต่แน่นอนว่าคงไม่ไปสู่การสู้รบเพราะเอ็มโอยูปี 2543 ยังเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะอย่างน้อยที่สุดก็แสดงว่าพื้นที่ดังกล่าวนั้นมีปัญหา ทั้งสองฝ่ายจึงมีข้อตกลงกันเอาไว้ ส่วนทางการฑูตนั้นยังไม่มีการเจรจา เพราะยังอยู่ในภาวะที่เผชิญหน้ากันอยู่จึงอาจจะยังเจรจากันไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน" |