Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3

Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
พิมพ์หน้านี้ - Apple อาจต้องเรียกคืน iPhone รุ่นใหม่?

TARADTHONG.COM

สมาชิก VIP => General Discussion => ข้อความที่เริ่มโดย: น่ารักสุดๆ ที่ มิถุนายน 29, 2010, 09:45:53 AM



หัวข้อ: Apple อาจต้องเรียกคืน iPhone รุ่นใหม่?
เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ มิถุนายน 29, 2010, 09:45:53 AM
Apple อาจต้องเรียกคืน iPhone รุ่นใหม่?
  รายงานข่าวเช้านี้ ต่อเนื่องจากรายงานที่ว่า iPhone 4 มีปัญหาเรื่องของสายอากาศที่ซ่อนอยู่บริเวณมุมล่างซ้ายของตัวเครื่อง ทำให้อุ้งมือผู้ใช้ที่กระชับบริเวณดังกล่าวไปลดทอนสัญญาณ ซึ่งจอบส์ออกมาสอนวิธีจับที่ถูกต้องล่าสุดมี Tweet โดย ceoSteveJobs ออกมาบอกว่า "เราอาจต้องเรียกคืน iPhone 4 จากปัญหาที่ไม่คาดคิดนี้"

            เชื่อว่า คุณผู้อ่านคงตกใจกับรายงานข่าวที่ออกมาอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือพิมพ์ในอังกฤษบางฉบับยังได้ตีพิมพ์ข้อความทวีตข้างต้นออกมาเผยแพร่ อีกต่างหาก ซึ่งทำให้ความน่าเชื่อถือของทวีตดังกล่าวเพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยทวีตที่ว่านี้เหมือนเป็นการออกมารับผิดชอบต่อปัญหาเสาอากาศที่ดูเหมือนจะ เกิดขึ้นกับผู้ใช้ไอโฟนด้วยมือซ้าย อย่างไรก็ดี ก่อนที่คุณผู้อ่านจะคิดไปกันใหญ่ขอเฉลยก่อนแล้วกันว่า บัญชีผู้ใช้ twitter.com/ceoSteveJobs ความจริงแล้ว มันเป็นของปลอม!!!


Apple อาจต้องเรียกคืน iPhone รุ่นใหม่?

            โดยข้อความใน BIO ของทวิตเตอร์แอคเคาต์นี้ได้ประกาศว่า "ผมไม่แคร์ว่าคุณคิดกับผมอย่างไร แต่คุณต้องแคร์สิ่งที่ผมจะบอกกับคุณ เพราะนี่คือแอคเคาต์ที่เปิดขึ้นมาเพื่อล้อเล่น" ความจริง แอคเคาต์นี้น่าจะถูกจับได้ตั้งแต่วันเสาร์ที่มันเปิดขึ้นมาแล้วด้วยข้อความ ทวีตที่ว่า "โอ ใช่แล้วครับ ทุกคนจับเมาส์ผิดวิธีมานานแล้วด้วย" ซึ่งฟังดูไม่มีเหตุผลเลยสักนิด แต่หลักฐานที่ชัดเจนที่สุดว่า คนเราเชื่ออะไรง่ายเกินไปก็คือ จำนวนผู้ติดตาม (Followers) แอคเคาต์ปลอมของ Steve Jobs นี้ เพราะขณะรายงานข่าวคุณผู้อ่านมันมียอดสูงถึง 102,463 รายเข้าไปแล้ว และยังไม่มีทีท่าที่จะหยุดด้วย

ข้อมูลจาก: techjackal