Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3

Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
พิมพ์หน้านี้ - อยู่ไม่สุข...ดีต่อสุขภาพ

TARADTHONG.COM

สมาชิก VIP => General Discussion => ข้อความที่เริ่มโดย: น่ารักสุดๆ ที่ สิงหาคม 07, 2011, 05:28:25 PM



หัวข้อ: อยู่ไม่สุข...ดีต่อสุขภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ สิงหาคม 07, 2011, 05:28:25 PM
อยู่ไม่สุข...ดีต่อสุขภาพ

(http://www.taradthong.com/picture_library/7_8_54_8.jpg)

อยู่ไม่สุข...ดีต่อสุขภาพ (ไทยโพสต์)

          แม้ว่าอาการอยู่ไม่สุขจะก่อความรำคาญให้แก่คนรอบข้างบ้าง แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ

          นักวิจัยกล่าวว่า คนอ้วนที่ชอบใช้เวลาทั้งวันนั่งเฉย ๆ สามารถรักษาสุขภาพได้ด้วยการ "ออกกำลังกายเล็ก ๆ น้อย ๆ" เช่น การขยับแข้งขาขณะนั่ง การลุกเดินไปชงชาหรือกาแฟ หรือการหาโอกาสเดินชั่วระยะเวลาสั้น ๆ ขณะทำงาน

          นักวิทยาศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยควีนส์ยูนิเวอร์ซิตี ในเมืองคิงส์ตัน มลรัฐออนแทรีโอ จัดการทดลองโดยให้ผู้ชาย 43 คน และผู้หญิง 92 คนที่เข้าข่ายอ้วน ออกกำลังกายแบบเบา ๆ ซึ่งอาสาสมัครทั้งหมดจะสวมใส่เครื่องวัดการเคลื่อนไหวไว้ที่เอว เพื่อตรวจดูว่าแต่ละคนออกกำลังเท่าไหร่ในหนึ่งสัปดาห์ และยังได้รับตรวจสอบการทำงานของหัวใจและปอดตลอดการวิจัย

          ทั้งนี้ ผู้วิจัยตีพิมพ์ข้อค้นพบในวารสาร "Medicine & Science in Sports & Excercise" ซึ่งระบุว่า แม้อาสาสมัครโดยเฉลี่ยจะค่อนข้างเฉื่อยชา แต่หากอาสาสมัครสามารถออกกำลังกายแบบเบา ๆ 30 นาทีต่อวัน การทำงานของระบบหัวใจและปอดจะดีขึ้นกว่าเดิม

          แอชลีย์ แม็กไกวร์ หัวหน้าทีมวิจัยกล่าวว่า คนทั่วไปมักไม่สามารถออกกำลังกายได้ตามเป้าหมายที่เหมาะสม คืออย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เธอกล่าวว่า "มันเป็นเรื่องดีที่เราควรรู้เอาไว้ว่า หากเราเพิ่มกิจกรรมที่ต้องออกแรงหรือเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เช่น การเดินรอบ ๆ บ้าน หรือเลือกที่จะเดินข้ามสำนักงานเพื่อคุยกับเพื่อนร่วมงานแทนโทรศัพท์ แค่นี้ก็ช่วยรักษาสุขภาพของเราได้ในระยะยาว"


(http://www.taradthong.com/picture_library/7_8_54_9.jpg)


          แม็กไกวร์ ยังย้ำด้วยว่า "สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ กิจกรรมเหล่านี้ใช้เวลาไม่มาก และไม่ยากเกินกว่าที่จะทำ รวมทั้งคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปเข้าฟิตเนสด้วย" พร้อมกับยกตัวอย่างว่า การทำงานบ้าน การเดินขึ้นบันได หรือการเดินภายในออฟฟิศที่ทำงาน แม้กระทั่งการขยับแข้งขาก็ถือเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ เช่นกัน และยิ่งออกกำลังกายที่ต้องใช้กำลังมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ต่อให้ขยับแขนขยับขามากเท่าไหร่ก็สู้การออกกำลังกายจริงจังไม่ได้อยู่ดี

          อย่างไรก็ดี นอกจากการขยับแขนจะช่วยระบบการหายใจแล้ว ยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย โดยงานวิจัยโดยมาโยคลินิก ในมลรัฐมินนิโซตา พบว่า ผู้ที่เป็นโรคอ้วนมักขยับร่างกายน้อยกว่าผู้ที่มีน้ำหนักมาก แต่การขยับร่างกายตลอดเวลา 2 ชั่วโมงขณะนั่ง หรือหากผู้ที่มีร่างกายผอมอยู่แล้วขยับร่างกายมากกว่าปกติ ก็จะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึงวันละ 350 แคลอรี ที่น่าสนใจคือ ทีมวิจัยยังค้นพบอีกว่า คนบางคนมีลักษณะนิสัยชอบขยับร่างกายติดตัวมาตั้งแต่เกิด

          ขณะที่งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งทดลองให้อาสาสมัครใส่เครื่องวัดการเผาผลาญแคลอรี แล้วเปรียบเทียบระหว่างการทำงานบ้านด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกกับการทำงานบ้านด้วยตนเอง ผู้วิจัยพบว่า การล้างจานด้วยตนเองเผาผลาญพลังงานมากกว่าใช้เครื่องล้างจาน 26 แคลอรี และการซักผ้าด้วยมือเผาผลาญพลังงานมากกว่าใช้เครื่อง 24 แคลอรี

          แม้ว่าจำนวนเหล่านี้จะดูเล็กน้อย แต่การออกกำลังต่อเนื่องจะสะสมการใช้พลังงานเข้าด้วยกัน ดังนั้นในหนึ่งวันหากเรายอมเดินไกลเพิ่มแทนที่จะนั่งรถ หรือซักผ้าด้วยมือแทนที่จะใช้เครื่อง ก็จะสะสมกันถึง 108 แคลอรีต่อวัน หากทำต่อเนื่องตลอดทั้งปีก็จะเผาผลาญพลังงานถึง 4 หมื่นแคลอรีเลยทีเดียว