หัวข้อ: 'เฟด'ปรับลดคาดการณ์ศก.สหรัฐฯ กำหนดวันสิ้นสุด'QE2'30มิ.ย.นี้ เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ มิถุนายน 24, 2011, 06:36:08 AM 'เฟด'ปรับลดคาดการณ์ศก.สหรัฐฯ กำหนดวันสิ้นสุด'QE2'30มิ.ย.นี้
เอเจนซี/เอเอฟพี - ธนาคารกลางของสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศลงเหลือ 2.7-2.9 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และ 3.3-3.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2012 ด้วยพิจารณาจากปัจจัยด้านลบต่างๆ ที่มาเหนี่ยวรั้งโดยเฉพาะราคาโภคภัณฑ์ที่พุ่งพรวดขึ้น นอกจากนี้ เฟดยังประกาศกำหนดวันสิ้นสุดการอัดฉีดเงินเข้าระบบตามมาตรการ “QE2” ด้วยการจะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลรอบสุดท้ายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม เฟดแถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22มิถุนายนที่ผ่านมา ระบุว่า อัตราการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ยังคงดำเนินไปตามจังหวะฝีก้าวพอประมาณ อย่างไรก็ตาม จากปัจจัยการกระโจนขึ้นของระดับราคาโภคภัณฑ์ในประเทศ ตลอดจนการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในญี่ปุ่นนั้น ได้ชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ลง พร้อมกันนี้ก็ได้ประกาศปรับลดตัวเลขประมาณการการขยายตัวของจีดีพีในปี 2010 นี้ใหม่ ลงเหลือ 2.7-2.9 เปอร์เซ็นต์ จากระดับ 3.1-3.3 เปอร์เซ็นต์ที่ทำนายไว้คราวก่อนในเดือนเมษายน นอกจากนี้ ยังลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2011 ลงเหลือ 3.3-3.7 เปอร์เซ็นต์ กระนั้นก็ตาม ประธานเฟด เบน เบอร์นันกี กล่าวในการแถลงข่าวว่า ปัจจัยลบทั้งในด้านของราคาโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นและการขาดแคลนซัปพลายจากญี่ปุ่นโดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีนั้น จะเป็นเพียงปัจจัยชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น เบอร์นันกี ยังแสดงความวิตกกังวลถึงอัตราการว่างงานในประเทศที่ยังเพิ่มสูงขึ้นจนแตะระดับ 9.1 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับภาพรวมการจ้างงานในอนาคตนั้น เฟดระบุในคำแถลงว่า ยังคงคลุมเคลือจากปัจจัยความไม่แน่นอน ขณะที่ภาคการบริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงราว 70 เปอร์เซ็นต์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ก็เริ่มอ่อนแรงลง ส่วนกิจกรรมการผลิตของภาคอุตสาหกรรมก็ซบเซาลงเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการเอฟโอเอ็มซี ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเกือบศูนย์เปอร์เซ็นต์ต่อไป รวมทั้งกำหนดว่าจะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลงวดสุดท้ายภายใต้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณระลอกสอง (QE2) ซึ่งมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 600,000 ล้านดอลลาร์ ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ และจะนำเงินต้นที่ได้รับจากหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ซึ่งตนถือครองอยู่กลับไปลงทุนใหม่ อันเป็นการรับประกันกรายๆ ว่าธนาคารกลางจะไม่ดูดเงินออกจากระบบอย่างแน่นอน สำหรับปฏิกิริยาของตลาดทุนและตลาดเงินในสหรัฐฯ หลังจากที่เฟดประเมินภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่สู้ดี ปรากฏว่า ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กปิดในแดนลบครั้งแรกในรอบ 5 วัน ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร “ไม่มีการเปรยออกมาว่า เฟดจะอัดฉีดเงินเข้าไปเพิ่มเติมหรือไม่” นิก เบนเนนบรืก หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศของจี-20 แห่งบริษัทบริการธุรกรรมการเงิน เวลส์ ฟาร์โก ในนครนิวยอร์ก กล่าว “โดยรวมแล้วคำแถลงจากเฟดครั้งนี้สร้างความผิดหวังแก่บรรดานักลงทุน ซึ่งมองว่าตลาดน่าจะมีบรรยากาศซบเซาลงอีก และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมดอลลาร์จึงขยับแข็งค่าขึ้นเพียงเล็กน้อย” |