หัวข้อ: แฉ SMS ชิงรางวัลเข้าข่ายการพนัน ชาวบ้านไม่ได้รางวัล เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ พฤษภาคม 27, 2011, 03:54:18 PM แฉ SMS ชิงรางวัลเข้าข่ายการพนัน ชาวบ้านไม่ได้รางวัล
SMS ลวงเด็ก ชี้เข้าข่ายพนัน (ไทยโพสต์) แฉ SMS ชิงรางวัลเข้าข่ายการพนัน แถมเกือบทั้งหมดโกงชาวบ้าน ไม่เคยได้รางวัล แต่รายการทีวี-ค่ายมือถือรวยอื้อ ฟันกำไรหลายหมื่นล้านต่อปี เผยเยาวชนตกเป็นเหยื่อโดยตรง ยอมควักค่าขนมเดือนละ 1,500 บาท ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ วันที่ 26 พฤษภาคมนี้ มีงานเสวนา "แนวทางการปกป้องเด็กและเยาวชนจากสถานการณ์การเสี่ยงโชคผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ (SMS)" จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว และมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ น.ส.จุฑิมาศ สุกใส นักวิจัยโครงการการสำรวจสถานการณ์การเสี่ยงโชคผ่านข้อความสั้นทางโทรศัพท์มือถือ (SMS) กล่าวว่า การเสี่ยงโชคผ่าน SMS ถือว่าเป็นสิ่งที่ใช้ทดแทนการพนัน ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการจะหาทางใช้วิธีนำเสนอการเสี่ยงโชคในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การเล่นเกมทางทีวี โดยการตอบคำถามชิงรางวัลทาง SMS หรือการดาวน์โหลดเพื่อลุ้นรางวัล รวมไปถึงรายการข่าว ละคร รายการกีฬา ทางสถานีโทรทัศน์ช่องต่าง ๆ ที่ให้ผู้ชมร่วมแสดงความคิดเห็นเพื่อแลกรับของรางวัล ส่ง SMS เสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 6 บาท และ 3 บาท ทั้งหมดล้วนเข้าข่ายการพนันทั้งสิ้น อีกทั้งการเสี่ยงโชคทาง SMS เป็นช่องทางที่เข้าถึงง่าย ติดง่าย เเต่ตรวจสอบเเละป้องกันยาก ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนจะเกิดการเสพติดในการเสี่ยงโชค ติดการพนันตั้งเเต่เด็ก หรือเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ติดการพนันในอนาคต "การเสี่ยงโชคทางโทรศัพท์มือถือที่ส่งข้อความให้ผู้บริโภคร่วมสนุกชิงรางวัลทาง SMS พบว่า ผู้ให้บริการหลายรายให้ข้อมูลไม่เพียงพอ เช่น เเจ้งว่าข้อความละ 6 บาท เเต่ไม่เเจ้งโดยเปิดเผยว่า ต้องเสียค่าบริการทั้งรับเเละส่งข้อความ หรือการส่งลิงค์ให้ดาวน์โหลดเนื้อหา ทำให้เสียค่าอินเทอร์เน็ตบนมือถือเเละค่าดาวน์โหลด ใช้ข้อความจูงใจให้สมัครบริการที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงของบริการที่เสนอขาย ล้วนเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคทั้งสิ้น แนวทางแก้ปัญหาควรควบคุมเนื้อหาด้านการเสี่ยงโชคโดยตรง กำหนดอายุผู้เข้าร่วมเสี่ยงโชค มีคำเตือน มีการขออนุญาตก่อนเปิดให้บริการการประมูลทางโทรศัพท์ SMS หรืออินเทอร์เน็ต และควรมีการออกกฎหมายเพื่อให้ผู้รับยินยอมก่อนรับข้อความ ผนวกเข้าในกฎหมายที่ควบคุมการพนัน" น.ส.จุฑิมาศกล่าว ด้าน นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) กล่าวว่า ช่องทางตรวจสอบถือว่า ทำได้ยาก เนื่องจากผู้ใช้ระบบโทรศัพท์มือถือส่วนใหญ่เป็นแบบเติมเงิน หากเป็นเด็กและเยาวชนที่ส่ง SMS เข้าข่ายการพนัน แต่ผู้ปกครองก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ต้องเสียเงินและมักไม่ได้รับของรางวัล อีกทั้งปัจจุบันมีรายการโทรทัศน์ วิทยุที่จัดรายการชิงโชคของรางวัลเข้าข่ายผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก เช่น รายการเล่าข่าวที่ให้ผู้ชมร่วมสนุกตอบคำถาม ซึ่งที่ผ่านมามีการร้องเรียนจากประชาชน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องมีการขออนุญาตกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตาม พ.ร.บ.การพนัน และแม้จะได้รับใบอนุญาตแล้วจะต้องมีการประกาศข้อความบนหน้าจอโทรทัศน์ ว่าได้รับอนุญาตและมีเลขทะเบียนตามกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีรายการใดปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้มงวดเรื่องการบังคับใช้กฎหมายมากกว่านี้ โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่กำลังหาเสียง ควรมีการกำหนดเป็นนโยบายว่ามีแผนจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร นายไพศาล ลิ้มสถิตย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีหน้าที่ดูแลผู้ประกอบการที่ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือต่าง ๆ ไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งหากพบว่าค่ายมือถือต่าง ๆ ร่วมกับผู้จัดรายการโทรทัศน์หรือวิทยุ ฯลฯ ที่มีลักษณะเข้าข่ายการพนัน เอาเปรียบผู้บริโภค ก็สามารถดำเนินการตักเตือนหรือสั่งระงับการดำเนินการได้ สำหรับรายการโทรทัศน์ที่จัดรายการส่ง SMS ชิงรางวัลเข้าข่ายการพนันจะต้องได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.การพนัน โดยต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ตั้งแต่หลักเกณฑ์ของการชิงโชค ระยะเวลาเปิดรับและสิ้นสุด ซึ่งจะต้องมีการระบุเป็นภาพและเสียงไว้อย่างชัดเจน "รายการทีวีส่วนใหญ่จะมีการขออนุญาตตาม พ.ร.บ.การพนัน แต่มีอีกจำนวนมากที่ไม่ได้ขออนุญาต โดยเฉพาะการพนันตามอินเทอร์เน็ต และพบว่า รายได้จากการให้ส่ง SMS ชิงโชคสามารถสร้างกำไรให้กับผู้ประกอบการและค่ายมือถือต่าง ๆ ได้หลายหมื่นล้านบาทต่อปี ขณะที่การตรวจสอบควบคุมทำได้ยาก ขาดกลไกในการเฝ้าระวังป้องกัน ดังนั้น หากพบว่า มีกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย หลอกลวงผู้บริโภค ให้แจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีต่อไป" นายไพศาลกล่าว ส่วนนายอัมมัน โอชา นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยรังสิต ชั้นปีที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการเสี่ยงโชคทาง SMS กล่าวว่า ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตนก็เริ่มเล่นเสี่ยงโชคผ่านทาง SMS และเลิกเล่นเมื่ออายุ 17 ปี โดยเริ่มจากการอยากรู้อยากลอง มีเวลาว่างจากการเรียน ที่สำคัญรางวัลที่นำมาล่อตาล่อใจก็เป็นสิ่งที่อยากได้ ซึ่งตอนแรกไม่ได้คิดว่าการเสี่ยงโชคแบบนี้จะทำให้ติด แต่เมื่อมีผลกระทบเกิดขึ้นกับตัวเอง เช่น หงุดหงิด โมโห อารมณ์ฉุนเฉียว เพื่อนห้ามไม่ได้ จึงทำให้รู้ว่า เป็นอาการของการติดพนัน ส่วนค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการเล่นจะอยู่ที่วันละ 50 บาท หรือ 1,500 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงคนที่เล่นพนันทาง SMS ให้เลิกเล่น เพราะ 90% พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้รางวัลแน่นอนv |