หัวข้อ: “แอปเปิล” ผงาดแซงกูเกิลขึ้นแท่น “แบรนด์อันดับ 1” ของโลก เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ พฤษภาคม 09, 2011, 10:40:12 PM “แอปเปิล” ผงาดแซงกูเกิลขึ้นแท่น “แบรนด์อันดับ 1” ของโลก
เอเจนซี - แอปเปิล ขึ้นแท่นแบรนด์อันดับ 1 ของโลก แซงหน้าเสิร์ชเอ็นจินยอดนิยมอย่าง กูเกิล ที่รั้งตำแหน่งมานานถึง 4 ปีซ้อน ผลการศึกษาโดยบริษัทวิจัย มิลล์วอร์ด บราวน์ เผยวันนี้(9) แบรนด์ซี (BrandZ) ซึ่งทำการวิจัย 100 แบรนด์ชั้นนำทั่วโลก ระบุว่า ผู้ผลิต ไอโฟน และ ไอแพด มีมูลค่าแบรนด์ถึง 153,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalisation) ของ แอปเปิล ด้วยสินค้าหลากประเภทที่ผลิตออกมาสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้ แอปเปิล กลายเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกแทนที่ ไมโครซอฟต์ เมื่อปีที่แล้ว ปีเตอร์ วอลช์ ผู้อำนวยการฝ่ายแบรนด์ทั่วโลกของ มิลล์วอร์ด บราวน์ ระบุว่า ความพิถีพิถันและใส่ใจรายละเอียดของ แอปเปิล ตลอดจนการผลิตอุปกรณ์เสริมต่างๆที่นำมาใช้งานร่วมกันได้ ทำให้ แอปเปิล แตกต่างจากผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 10 อันดับแบรนด์ชั้นนำของโลกในรายงานวันนี้(9) ประกอบด้วยบริษัทด้านเทคโนโลยีและการสื่อสารถึง 6 แห่ง โดย กูเกิ้ล มาเป็นอันดับที่ 2, ไอบีเอ็ม อันดับ 3, ไมโครซอฟต์ อันดับ 5, เอที แอนด์ ที อันดับ 7 และ ไชนา โมไบล์ อันดับที่ 9 แมคโดนัลด์ส ขยับขึ้นมาสู่อันดับที่ 4 หลังจากที่อาหารจานด่วนกลายเป็นธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุด ขณะที่ โคคาโคลา ตกจากอันดับ 5 ไปอยู่ที่อันดับ 6 มาร์ลโบโร ตกไปอยู่ที่อันดับ 8 และ เจเนอรัล อิเล็กทริก มาเป็นอันดับที่ 10 ปิดท้ายรายการ วอลช์ ระบุว่า อุปสงค์ของผู้บริโภคในจีนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ธุรกิจอาหารจานด่วนเฟื่องฟู “ชาวจีนนิยมรับประทานอาหารจานด่วนมากขึ้น และพวกเขาก็เป็นตลาดใหญ่มาก ทั้ง สตาร์บัคส์, แมคโดนัลด์ส และพิซซ่า ต่างขายดิบขายดีในจีน” เฟสบุ๊ก ติดอันดับที่ 35 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 19,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เสิร์จเอ็นจิน ไป่ตู้ ของจีนขยับจากอันดับที่ 46 มาอยู่ที่ 29 โตโยต้า กลับมาครองตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์มูลค่าสูงสุดของโลก หลังประสบปัญหาจนต้องเรียกคืนรถยนต์หลายล้านคันเมื่อปี 2010 ทว่าผลสำรวจครั้งนี้ทำขึ้นก่อนที่ญี่ปุ่นจะเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้การผลิตของ โตโยต้า ต้องหยุดชะงักลง ภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัวส่งผลให้มูลค่ารวมของ 100 แบรนด์ชั้นนำเพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ |