หัวข้อ: ราคาทองคำร่วง นักลงทุนเทขายทำกำไร เริ่มหัวข้อโดย: loveyou ที่ มิถุนายน 10, 2010, 11:42:18 AM ราคาทองคำร่วง นักลงทุนเทขายทำกำไร :kiss1:
ราคาทองคำวันพุธดิ่งลงเนื่อง จากนักลงทุนเทขายเพื่อทำกำไรหลังจากทองคำทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง ที่ตลาดโคเม็กซ์ ราคาทองคำส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลง $11.30 มาอยู่ที่ระดับ $1,234.30 ต่อออนซ์ โดยราคาซื้อขายสูงสุดอยู่ที่ระดับ $1,242.6 และต่ำสุดที่ $1,232.6 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลง 0.64% ที่ $87.82 ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นมา 0.34% ที่ $1.20 ส่วนราคาทองคำได้ร่วงลง $2.80 ความแตกต่างระหว่างราคาทองคำและราคาฟิวเจอร์สชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนยังคงถือทองคำเอาไว้และมาเล่นฟิวเจอร์สแทน ราคาทองคำพุ่งขึ้นกว่า 2%ในวันจันทร์โดยทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ระดับ $1,254 นักลงทุนได้โอกาสเทขายทำกำไรเนื่องจากเป็นสินทรัพย์เพียงไม่กี่ตัว ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก ส่วนดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลงต่อเนื่องกว่า 316 จุดจากเมื่อวันศุกร์ ทั้งๆที่ช่วงบ่ายวันอังคารดีดกลับขึ้นมา ถึงแม้ว่าทองคำจะเป็นสิ่งที่ สามารถเก็บรักษามูลค่าได้ในยามเศรษฐกิจผันผวน อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะทำให้ทองคำเทขายออกมาในยามนี้ก็คือ นักลงทุนต้องการเงินมาชดเชยการขาดทุนจากตลาดหุ้นและการทำกำไร จากราคาที่เพิ่มสูงขึ้น นายไบรอัน ฮิคส์ co-manager จาก U.S. Global Investors Global Resources Fund กล่าวว่า “มันถึงเวลาเหมาะสมที่จะเห็นเงินถูกดึงกลับ ออกไป แต่ก็ไม่สามารถคาดได้ว่าจะเห็นราคาทองคำร่วงลงมากแค่ไหน ซึ่งเราอาจจะเห็นวงจรเข้าๆออกๆของเงินลงทุนอยู่บ่อยๆ แต่ขณะนี้ปัจจัยพื้นของทองคำยังคงแข็งแรงอยู่ที่จะส่งเสริมให้ราคา ทองคำวิ่งขึ้นต่อ โดยปี 2010 และปี 2011 เราคาดว่าราคาทองคำอาจจะได้แตะที่ระดับ $1,300 และ $1,500 ตามลำดับ” จากการที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นมา ในขณะนี้ นักวิเคราะห์หลายคนกังวลว่าจะเป็นการเข้าซื้อที่มากเกินไปหรือไม่ เนื่องจากการที่ราคาทองคำได้เคลื่อนไหวมากกว่า 2 หลักเห็นได้ชัดว่าเป็นการเข้าซื้อของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด ทองคำ เช่น เฮ็ดจ์ฟันด์ หรือ ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ โดยมีนักลงทุนรายย่อยซื้อเลียนแบบเพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสในครั้ง นี้ นายมาร์ก โอบาย ผู้บริหารของ Goldcore กล่าวว่า “แรงซื้อที่เข้ามามาจากลูกค้ารายใหญ่ๆ ซึ่งขั้นต่ำของคำสั่งซื้อจะอยู่ที่ $10,000 ขึ้นไป ดังนั้น แรงซื้อในขณะนี้ไม่ได้มากจากนักลงทุนรายย่อย ทั่วไป” สิ่งที่อยู่เบื้องหลังของการ พุ่งขึ้นของราคาทองคำคือการเข้าซื้อของธนาคารกลาง ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว อย่างจีนและอินเดีย ได้เข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2009 โดยได้เปลี่ยนสถานะจากผู้ขายเป็นผู้ซื้อ ธนาคารกลางอิหร่านเป็นประเทศ ล่าสุดที่สนใจในตัวทองคำหลังจากได้มีการประกาศขายเงินยูโรออกมา 4.5 หมื่นล้านยูโรและหันมาถือเงินดอลลาร์และทองคำแทน โดยปกติแล้วธนาคารกลางที่จะเข้าซื้อทองคำจะไม่ประกาศออกมาก่อนเพื่อ ป้องกันการตื่นตัวของราคาที่อาจดีดขึ้น จึงทำให้นักวิเคราะห์หลายคนคิดว่าการที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นอาจมา จากการเข้าซื้อที่มีขนาดใหญ่ ราคาทองคำยังได้รับสัญญาณบางอ ย่างจากการแถลงของนายเบน เบอร์นาเก้ ผู้ว่าการธนาคารกลางของสหรัฐต่อสำนักงบประมาณเกี่ยวกับหัว ข้อสภาพเศรษฐกิจ นักลงทุนยังคงจับตาสำหรับสัญญาณที่เฟดอาจจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าเฟดอาจจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ ต่อไปเนื่องจากวิกฤตการณ์หนี้ในยุโรปจะส่งผลให้เกิดความต้องการส ภาพคล่องในตลาดมากยิ่งขึ้น 09-06-2010 08.30AM ที่มา The Street แปลข่าวโดยทีมวิเคราะห์ทองคำ MTS Gold |