หัวข้อ: ไม้มงคลตามความเชื่อของจีน เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ ธันวาคม 16, 2010, 09:16:32 PM ไม้มงคลตามความเชื่อของจีน
สิ่งที่เป็นมงคลของ ชาวจีนมีมากมาย ตั้งแต่คำพูด ตัวอักษร ลวดลาย ภาพวาด สิ่งของ เครื่องใช้ ดอกไม้ ผลไม้ ขนม ในส่วนของต้นไม้มงคลของชาวจีนก็มีมากมาย แต่จะขอพูดถึงต้นไม้สำคัญเพียง 4 ต้น ดังนี้ ไม้มงคลตามความเชื่อของจีน 1. ท้อ ถือ เป็นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เป็นไม้สวรรค์ ในพงศาวดารจีนเขียนไว้ว่า ดอกท้อเป็นดอกไม้ที่เกิดในดวงจันทร์ ในสมัยโบราณมีความเชื่อว่า ที่คนเจ็บไข้ได้ป่วยก็เพราะผีเข้า พวกพ่อมดหมอผีจะใช้กิ่งท้อที่ยื่นไปทางทิศตะวันออก และทิศใต้มาทำเป็นไม้เรียวตีไล่ผี หรือไม่ก็ใช้ใบท้อผสมลงในหม้อยา ให้คนไข้กินไล่ผีที่สิงอยู่ออกไป ในวันปีใหม่ หนุ่ม ๆ สาวๆ หรือ ผู้เฒ่าผู้แก่ จะพากันดื่มน้ำท้อ เวลาอาบน้ำก็จะอาบน้ำอุ่นที่เอากิ่งท้อใส่ลงไปต้ม ถือว่าเป็นสิริมงคลยิ่ง และปีนั้นทั้งปีจะปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ ในสมัยโบราณยังนำไม้ท้อมาทำเป็นเครื่องลางแขวนคอ บางครั้งใช้ไม้ท้อแขวนไว้ตามประตู เพื่อป้องกันภูตผี สิ่งชั่วร้าย ไม่ให้เข้าไปรบกวน เรียกได้ว่าคนจีนในสมัยโบราณใช้ ต้น ใบ กิ่ง ของท้อเป็นไม้มงคล ถึงแม้ในปัจจุบัน แม้ความเชื่อนี้จะเลือนหายไปบ้าง แต่ท้อก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของความยั่งยืน เป็นมงคลเหมือนเดิม 2. ทับทิม เป็น ไม้เก่าแก่ของจีน ชาวจีนถือว่าทับทิมเป็นเครื่องหมายแห่งความอุดมสมบูรณ์ และการมีลูกหลานมากมาย โดยถือเอาความที่มีเมล็ดมากมายมาเป็นสัญลักษณ์ ชาวจีนจึงนิยมให้ทับทิมเป็นของขวัญวันแต่งงาน เพื่อเป็นการอวยพรให้คู่บ่าวสาวมีลูกมาก ๆ เพื่อสืบตระกูล แต่ก่อนแต่งตอนฝ่ายชายนำสินสอดไปสู่ขอฝ่ายหญิง ต้องเอาใบทับทิมเคล้ากับเงินสินสอดไปด้วย และในพิธีแต่งงานมักจะใช้ยอดทับทิมปักที่ผม เวลาเซ่นไหว้เจ้าในพิธีแต่ง ก็เอายอดทับทิมปักที่เครื่องเซ่น นอกจากจะถือว่าผลทับทิมเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ มีลูกหลานสืบตระกูลมากมายแล้ว ชาวจีนยังถือว่า ใบและกิ่งทับทิมมีอำนาจไล่ผีได้ เช่นเดียวกับกิ่งและใบของท้อ ดังนั้น เมื่อไปงานศพกลับมา จึงมักใช้ใบทับทิมแช่น้ำ ล้างมือ ล้างหน้า เพื่อเป็นมงคล 3.ไม้ไผ่ ได้ รับสมญาว่า เป็นพญาแห่งมวลพฤกษา ซึ่งนอกจากจะให้ประโยชน์นานัปการแล้ว ชาวจีนยังเชื่อว่า เสียงแตกของไม้ไผ่ในกองไฟสามารถขจัดภูติผีปีศาจได้ ดังนั้น เมื่อถึงเทศกาลสำคัญ เช่น ตรุษจีน หรืองานมงคลอื่น ๆ ชาวจีนจึงนิยมทิ้งไม้ไผ่ลงไปในกองไฟ เพื่อให้เกิดเสียงดัง เพื่อขจัดสิ่งชั่วร้าย ต่อมาเมื่อวิทยาการก้าวหน้าขึ้น มีการทำประทัด ประทัดจึงมาทำหน้าที่แทนไม้ไผ่ 4.โป๊ยเซียน มีถิ่นกำเนิดในเกาะมาดากัสการ์ เข้ามาเมืองไทยโดยผ่านทางจีน จึงได้ชื่อจีนมาด้วย คำว่า "โป๊ยเซียน" หมายถึงผู้วิเศษทั้ง 8 คือ 1. หลีทิถ้วย (เซียนพิการ) 2. ฮั่นเจงหลี (เซียนหอสมุด) 3. ลื่อทงปิง (เซียนอาจารย์) 4. เตียถั้วเล้า (เซียนค้างคาวเผือก) 5. นำไช่ฮั้ว (เซียนวณิพก) 6. ฮ่อเซียนโกว (เซียนสาวสวย) 7. ฮั้นเซียงจือ (เซียนกวี) 8. เช่าแก้กู๋ (เซียนถ้ำ) เซียนทั้งแปดนี้นำโชคลาภมาให้ ทั้งยังช่วยป้องกันภัยอันตราย และยังขจัดทุกข์โศกได้อีกด้วย ใน สมัยโบราณ ผู้ที่จะปลูกโป๊ยเซียน ต้องเป็นฮ่องเต้ พระบรมวงศานุวงศ์ หรือขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ปลูกเพื่อไว้ใช้เสี่ยงทาย บุญวาสนาของบุคคลระดับปกครองเท่านั้น ครั้นเวลาผ่านไป ต้นไม้ต้นนี้ก็มีผู้แอบเล็ดลอดนำออกนอกวังฮ่องเต้ ออกนอกรั้วบ้านขุนนาง ออกไปเผยแพร่สู่สามัญชน และก็เป็นพ่อค้าชาวจีนที่นำเข้ามาสู่ประเทศไทยเมื่อกว่า 100 ปีเศษ มานี้เอง และการที่ได้ชื่อว่า "โป๊ยเซียน" เพราะตามธรรมชาติ มันจะออกดอกตั้งแต่ 1 ถึง 4 ดอก เท่านั้น หากผู้มีโชควาสนาเป็นผู้ปลูก จึงจะออกดอกช่อหนึ่ง ตั้งแต่ 8 ถึง 16 ดอก หรือ 32 ดอก ยิ่งออกมากก็ยิ่งแสดงว่ามีบุญบารมีมาก ชาวจีนในเมืองไทย และชาวไทยเองก็นิยมปลูกต้นโป๊ยเซียนไว้เสี่ยงทายโชควาสนาชะตาของตนเอง โดยถือตามคติจีน และนิยมกันว่า การปลูกโป๊ยเซียนควรปลูกในกระถางที่มีรูปโป๊ยเซียนด้วยจึงต้องโฉลกตามตำรา และบางทีก็ถือกันว่า ต้องปลูกให้ครบ 8 กระถาง จึงจะเข้าโฉลกกับเซียนทั้งแปด ก็ถือว่าเป็นมงคล |