|
หัวข้อ: สั่งชะลอ3จีทำต่างชาติผวา ปัญหากฎระเบียบไทย เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กันยายน 27, 2010, 10:39:35 PM สั่งชะลอ3จีทำต่างชาติผวา ปัญหากฎระเบียบไทย
ประธาน ส.อ.ท. ระบุ ชะลอประมูล 3 จี ทำนักลงทุนต่างชาติหวาดหวั่นปัญหากฎระเบียบไทย ส่วนปัญหามาบตาพุด แนะทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ปัญหาเพราะมีบทพิสูจน์จากต่างชาติแล้ววาอุตสาหกรรมและชุมชนอยู่ร่วมกันได้ เมื่อวันที่ 27 ก.ย. นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผลการระงับการประมูลใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3 จี ทำให้นักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการจะเข้ามาลงทุนในไทยเกิดความไม่มั่นใจ เพราะสงสัยว่า ประเทศไทยมีปัญหาด้านกฎหมาย กฎระเบียบต่าง ๆ ค่อนข้างมาก จึงต้องการให้ภาครัฐเร่งเดินหน้าแก้ปัญหาความเสี่ยงด้านกฎระเบียบดังกล่าวให้หมดไป เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน "การสั่งชะลอใบอนุญาตโทรศัพท์เคลื่อน 3 จี เป็นสิ่งที่ทำให้ไทยเสียโอกาส และกระทบต่อคนจำนวนมาก โดยเฉพาะในชนบทที่เสียโอกาสในการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงราคาถูก เพื่อเรียนรู้ และเข้าถึงแหล่งข้อมูล ไม่นับผลกระทบต่อภาคธุรกิจอีกจำนวนมาก ภาวะที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศไทยอาจล้าหลัง " ประธานส.อ.ท. กล่าว ส่วนกรณีที่เครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก เตรียมนัดชุมนุมปิดมาบตาพุดในวันที่ 30 ก.ย. นี้ นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า ต้องการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาอย่างมีเป้าหมาย และสร้างสรรค์มากกว่า ซึ่งในต่างประเทศ เช่น ยุโรป และญี่ปุ่น ก็มีการดำเนินการในลักษณะนี้ ทำให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน สำหรับการออกใบอนุญาตให้โรงงานเดินหน้าเชิงพาณิชย์ เชื่อว่า จะทยอยออกใบอนุญาตได้ในโครงการที่ไม่อยู่ในข่าย 11 ประเภทกิจการรุนแรง โดยขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของแต่ละโครงการในการขอใบอนุญาตจากภาครัฐ ประธาน ส.อ.ท. กล่าวถึงค่าเงินบาทขณะนี้ที่ยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องว่า ต้องการให้ภาครัฐ โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งสัญญาณดูแลค่าเงินบาทอย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ แต่หาก ธปท. ยังส่งสัญญาณว่า เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า จะทำให้ยิ่งแข็งค่ามากขึ้นไปอีก ปัญหานี้ส่งผลให้ผู้ส่งออก มีรายได้ลดลง และกระทบกำลังซื้อในประเทศลดลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม เงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ยังไม่กระทบต่อการจ้างงาน หรือปิดกิจการ เพียงแต่อยู่ในระหว่างการปรับตัว รับกับภาวะที่มีรายได้และกำไรลดลง สำหรับ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องรอคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการของศาล แต่ยอมรับว่า หากการเมืองไม่มีเสถียรภาพ จะกระทบต่อการบริหารประเทศ ทำให้ไม่มีความต่อเนื่องในการบริหารนโยบาย |