Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3

Deprecated: preg_replace(): The /e modifier is deprecated, use preg_replace_callback instead in /var/www/vhosts/taradthong.com/httpdocs/webboard/Sources/Load.php(225) : runtime-created function on line 3
พิมพ์หน้านี้ - เตือนใช้พลาสติกเลี้ยงเด็ก เสี่ยงมะเร็ง - เบี่ยงเบนเพศ

TARADTHONG.COM

สมาชิก VIP => General Discussion => ข้อความที่เริ่มโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กันยายน 24, 2010, 08:28:57 PM



หัวข้อ: เตือนใช้พลาสติกเลี้ยงเด็ก เสี่ยงมะเร็ง - เบี่ยงเบนเพศ
เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กันยายน 24, 2010, 08:28:57 PM
ใช้พลาสติกลูกเบี่ยงเบนเพศ (ไทยโพสต์)

          โรงพยาบาลเด็กห่วงพ่อแม่ใช้ภาชนะพลาสติกเลี้ยงเด็ก เสี่ยงมะเร็ง แถมเด็กมีสิทธิ์เบี่ยงเบนทางเพศ แถมเป็นหมันในเพศชาย เพราะสารจะไปรบกวนระบบฮอร์โมน หมอชี้ต่างประเทศหันใช้ขวดนมพลาสติกชนิดใหม่ "5 PP" ทนความร้อนได้ดีกว่า แต่ไทยยังพบไม่มากในท้องตลาด

          ที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) เมื่อวันที่ 23 ก.ย. มีการเปิดเผยผลการศึกษาพฤติกรรมการใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหาร ในโครงการอาหารปลอดภัย เด็กไทยพ้นภัยสารพิษพลาสติก พญ.ศิราภรณ์ สวัสดิวร ผอ.สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวว่า ปัจจุบันสารพิษในพลาสติกยังไม่ถูกมองว่าเป็นปัญหาหลักของระบบสาธารณสุข แต่ทางสถาบันฯ เห็นว่าสารพิษในพลาสติกมีความสำคัญสำหรับเด็กไทย เพราะพลาสติกถูกใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น และหากภาชนะพลาสติกที่มาบรรจุอาหารและน้ำดื่มให้กับเด็กด้วย วิธีการที่ไม่ถูกต้องและปลอดภัยจะส่งผลให้เกิดการสะสมของสารพิษต่าง ๆ ทำให้เด็กไทยมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคมะเร็งในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ทารก และเด็กเล็ก

          พญ.นัยนา ณีศะนันท์ กุมารแพทย์ หน่วยกุมารเวชศาสตร์สังคม สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ในฐานะหัวหน้าโครงการอาหารปลอดภัย เด็กไทยพ้นภัยสารพิษพลาสติก กล่าวว่า ในประเทศไทยยังไม่เคยมีประเด็นศึกษาด้านสุขภาพในเรื่องสารพิษจากพลาสติก ที่สำคัญจากข้อมูลการศึกษาพบว่า พ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กยังขาดความรู้ความเข้าใจในการเลือกซื้อ วิธีการใช้งานภาชนะพลาสติกแต่ละประเภทที่ถูกต้องและปลอดภัย





          พญ.นัยนาชี้แจงว่า พลาสติกแต่ละชนิดหากนำไปใช้อย่างผิดวิธีจะทำให้สารเคมีต่าง ๆ ปนเปื้อนในอาหาร เช่น สาร BPA ซึ่งเป็นสารเคมีที่ใช้ในการผลิตพลาสติกชนิดแข็งใสที่เรียกว่า โพลีคาร์บอเนต เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตขวดนมสำหรับเด็ก เมื่อถูกความร้อนจากการต้มขวดนมจะทำให้สาร BPA ละลายออกมาปนเปื้อนในอาหาร โดยศูนย์พิษวิทยาแห่งชาติ (NIP) ของสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริการะบุว่า สารชนิดนี้จะส่งผลต่อระบบประสาทพัฒนาการของทารกในครรภ์ เด็กทารก และเด็กเล็กได้ และอาจเป็นสาเหตุก่อมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านมได้ นอกจากนี้มีการทดลองในสัตว์ทดลองพบว่า สาร BPA มีลักษณะเป็นตัวรบกวนฮอร์โมน ทำให้ฮอร์โมนทางเพศในร่างกายเกิดความสับสน อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศสำหรับเด็กรวมถึงการสืบพันธุ์ เนื่องจากในสัตว์ทดลองที่ได้รับสาร BPA เป็นระยะเวลานานทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง

          ด้าน พญ.รัชดา เกษมทรัพย์ กุมารแพทย์ หน่วยกุมารเวชศาสตร์สังคม ในฐานะเลขานุการโครงการฯ กล่าวว่า ผลสำรวจบุคลากรทางการแพทย์ภายในสถาบันฯ พ่อแม่ผู้ปกครองที่มารับบริการในสถาบันโดยใช้แบบสอบถามจำนวน 200 ชุด พบว่า ร้อยละ 80 มีการใช้กล่องโฟมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ขณะที่ร้อยละ 60 รับประทานอาหารแช่แข็งที่ต้องอุ่นด้วยไมโครเวฟอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง แม้ว่าภาพรวมร้อยละ 85 มีพฤติกรรมต่อการเลือกใช้ภาชนะพลาสติกบรรจุอาหารในระดับดี แต่เนื่องจากพฤติกรรมที่คนใช้ชีวิตเร่งรีบ คนส่วนใหญ่แม้รู้ แต่ไม่ได้ตระหนักในการเลือกใช้ภาชนะพลาสติกอย่างถูกวิธี อย่างเช่น โฟม ที่มีข้อมูลยืนยันชัดเจนว่ามีสารก่อมะเร็ง ไม่ควรนำมาใช้ใส่ของร้อน หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรใช้ถุงร้อนลองก่อนใส่อาหาร ส่วนขวดนมเด็กที่มีขายในท้องตลาดพบว่า เป็นพลาสติก 7 ที่ทนความร้อนและแรงกระแทกได้สูง แต่ในประเทศยุโรป อเมริกา เลิกใช้พลาสติกชนิดนี้ผลิตขวดนมเด็กแล้ว แต่จะใช้พลาสติก 5 PP ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดใหม่ที่ทนความร้อนได้ดีกว่าแทน แต่ราคาค่อนข้างสูงกว่า