หัวข้อ: ‘เฟด’ไม่ปรับดบ.แต่แบะท่าพร้อมใช้มาตรการอัดฉีดถ้าศก.แผ่วลงไปอีก เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กันยายน 23, 2010, 07:20:37 AM ‘เฟด’ไม่ปรับดบ.แต่แบะท่าพร้อมใช้มาตรการอัดฉีดถ้าศก.แผ่วลงไปอีก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ เอเจนซี/เอเอฟพี - ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนขึ้นอีกนิดหนึ่งในอันที่จะก้าวเข้าไปหนุนช่วยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวันอังคารที่ 21 กันยายน โดยที่ว่า แม้จะยังไม่ตัดสินใจเปิดปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่ก็เตรียมลงมือหากพลวัตรการฟื้นตัวนี้แผ่วลงกว่าที่ผ่านมา ในการนี้ มติของเอฟโอเอ็มซีกำหนดให้ระดับของดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืน “เฟด ฟันด์ เรต” อันเป็นดอกเบี้ยพื้นฐานของประเทศ ค้างเติ่งอยู่ใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์ดังเดิม เพื่อหนุนเนื่องสภาพการณ์ที่เรียกกันว่า การฟื้นตัวระดับพอประมาณ และแม้จะมีการรั้งมือไว้จากการอัดฉีดจับจ่ายเพิ่มรอบใหม่ แต่บรรดาบิ๊กๆ ของแบงก์ชาติสหรัฐฯ ได้แง้มประตูออกกว้างมากขึ้นเพื่อเอื้อยิ่งขึ้นแก่การเดินมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินรุ่นใหม่เข้าไปในระบบอีกหลายแสนล้านดอลลาร์ “คณะกรรมการ... เตรียมจะให้เงินกู้ยืมเพิ่มขึ้นอีกถ้าจำเป็น ในอันที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และนำภาวะเงินเฟ้อกลับคืนสู่ระดับต่างๆ ที่เหมาะสมในกาลข้างหน้า” เฟดแถลงในคราวนี้ ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับหลังการประชุมนัดที่แล้ว ณ 10 สิงหาคม เอฟโอเอ็มซีเคยใช้เพียงถ้อยคำว่า “จะใช้เครื่องมือเชิงนโยบายตามจำเป็น” “ตอนนี้ เอฟโอเอ็มซีเอนเอียงไปทางที่ผ่อนปรนอย่างเห็นได้ชัดมาก” ไมเคิล เฟอโรลิ นักเศรษฐศาสตร์ค่ายเจพี มอร์แกน เขียนไว้ในหนังสือเวียนแก่กลุ่มลูกค้า ทางด้านปฏิกิริยาของดีลเลอร์ที่ได้สิทธิค้าพันธบัตรกับเฟด (primary dealer) ล้วนเก็งว่าจะได้เห็นมาตรการผ่อนปรนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ปรากฏอยู่ในผลการสำรวจความเห็นที่ค่ายรอยเตอร์ทำทันทีหลังจากตลาดทราบข่าวมติเอฟโอเอ็มซี โดยพวกแบงก์ใหญ่เหล่านี้ 10 แห่งในจำนวน 16 แห่งที่ร่วมตอบเซอร์เวย์เห็นว่ามีแนวโน้มมากที่จะมีการปล่อยกู้เข้าระบบเพิ่ม และมี 7 แห่งทีเดียวที่ทำนายว่าเรื่องนี้จะเกิดในไม่ช้า โดยอาจจะในการประชุมเอฟโอเอ็มซีครั้งหน้าในเดือนพฤศจิกายน สำหรับราคาพันธบัตรกระทรวงการคลังสหรัฐฯ พุ่งสูง หลังคำแถลงเที่ยวนี้ถูกเผยแพร่ และยีลด์ของตราสารประเภท 2 ปี ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนยวบอย่างแรง เพราะนักลงทุนเก็งว่าจะมีการอัดสภาพคล่องเข้าระบบทันทีที่เฟดประชุมนัดต่อไปวันที่ 2-3 พฤศจิกายน ราคาทองดีดตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เอี่ยม หลังจากที่ทะยานขึ้นมาแล้วราว 17% ในปีนี้ในท่ามกลางความวิตกถึงศักยภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนในถิ่นวอลล์สตรีท ราคาหุ้นแกว่งแรง แต่ลงเอยด้วยการที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์แทบไม่มีการขยับตัว สำหรับท่าทีของผู้ว่าการเฟดสำนักแคนซัส นายโธมัส เฮอนิก ยังเป็นแนวเหยี่ยวเช่นเคย โดยออกเสียงค้าน และชี้แย้งว่านโยบายการเงินแบบปล่อยหลวมๆ จะสร้างปัญหาอสมดุลย์ในหลายหลากด้านในระยะยาว “สายพิราบพร้อมใช้มาตรการอัดฉีดแล้ว ส่วนสายเหยี่ยวยังต้องได้เห็นแนวโน้มความเสื่อมแรงๆ จึงจะเลิกค้าน” เป็นความเห็นของสตีเฟน สแตนลีย์ แห่งบริษัทหลักทรัพย์เพียร์พอนท์ อนึ่ง หากเฟดเปิดปฏิบัติการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเข้าสู่ระบบ ผลกระทบจะเกิดขึ้นต่อค่าเงินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะผลักให้ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นแข็งตัวเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนจะหอบเงินดอลลาร์ที่มีต้นทุนต่ำมากๆ ไปแสวงกำไรจากระบบเศรษฐกิจอื่น ที่สามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่า สัญญาณเรื่องนี้ได้ปรากฏแล้วในตลาดซื้อขายวันอังคาร ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นจะลำบากใจทีเดียวกับเรื่องนี้ เพราะเศรษฐกิจญี่ปุ่นย่ำแย่จัดตลอดช่วงที่เงินดอลลาร์อ่อนเรื้อรังและเงินเยนแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ |